×

น้องสาว ‘คิมจองอึน’ ประกาศ ประตูเจรจากับเกาหลีใต้ยังเปิดอยู่ หากเกาหลีใต้เลิกสองมาตรฐานและนโยบายที่เป็นปรปักษ์

25.09.2021
  • LOADING...
คิมโยจอง

สถานีโทรทัศน์ KCNA ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งในประเทศว่า การเรียกร้องให้ยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการจากฝั่งเกาหลีใต้นั้นยังถือว่า ‘เร็วเกินไป’ แต่ก็บอกว่าประตูสำหรับการเจรจายังเปิดอยู่ หากเกาหลีใต้ล้มเลิกการใช้สองมาตรฐานและนโยบายที่เป็นปรปักษ์ และปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รายนี้ก็คือ ‘คิมโยจอง’ น้องสาวของคิมจองอึน ผู้นำของเกาหลีเหนือนั่นเอง

 

สงครามเกาหลีในปี 1950-1953 จบลงด้วยการสงบศึกไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพ ทำให้ในทางเทคนิคถือว่ากองกำลังของสหประชาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะสงครามกับเกาหลีเหนือ คำถามเกี่ยวกับการยุติสงครามอย่างเป็นทางการได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะทำให้เกาหลีเหนือยุติการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งความพยายามนี้นำโดยสหรัฐอเมริกา

 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 กันยายน) มุนแจอิน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เรียกร้องการยุติสงครามอย่างเป็นทางการอีกครั้งในถ้อยแถลงต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ แต่ปรากฏว่า คิมโยจอง น้องสาวของคิมจองอึน ระบุว่าคำขอของมุนแจอินนั้น ‘น่าสนใจและน่าชื่นชม’ แต่ปัจจัยแวดล้อมนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากการใช้สองมาตรฐาน อคติ และความเป็นปรปักษ์ของเกาหลีใต้

 

เธอบอกว่าเกาหลีใต้ควรเปลี่ยนทัศนคติและส่งเสริมเงื่อนไขสำหรับการอภิปรายที่มีความหมาย บนหนทางสู่การยุติความขัดแย้งและปรับปรุงความสัมพันธ์ โดยสิ่งที่จะต้องละทิ้งคือทัศนคติเสแสร้ง อคติที่ไร้เหตุผล นิสัยที่ไม่ดี และจุดยืนที่เป็นศัตรู จากการหาเหตุผลมาอธิบายการกระทำของเกาหลีใต้ในขณะที่หาเหตุผลเพื่อวิจารณ์สิ่งที่เกาหลีเหนือระบุว่าเป็นแค่ ‘การใช้สิทธิป้องกันตัว’ ของเกาหลีเหนือ และบอกด้วยว่าการนั่งลงเจรจากันต่อหน้าและประกาศยุติสงครามครั้งสำคัญจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขเบื้องต้นดังกล่าวเท่านั้น

 

ทั้งนี้เกาหลีเหนือพยายามหาทางยุติสงครามมานานหลายทศวรรษ แต่สหรัฐฯ กลับไม่สมัครใจที่จะเห็นด้วยถ้าเกาหลีเหนือไม่หยุดความพยายามเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ ความคาดหวังที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเกี่ยวกับการประกาศสิ้นสุดสงครามนั้นเกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดเมื่อปี 2018 ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะผู้นำสหรัฐฯ และ คิมจองอึน ทว่าความเป็นไปได้ตลอดจนแนวโน้มของการเจรจาที่ผู้นำทั้งสองสร้างขึ้นผ่านการประชุมสามครั้งกลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และการเจรจาก็หยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2019

 

ประธานาธิบดีมุนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นนักเสรีนิยมที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ มองว่าการยุติสงครามเป็นหนทางที่จะผลักดันความพยายามที่จะกดดันเกาหลีเหนือให้ยกเลิกความพยายามเกี่ยวกับนิวเคลียร์และขีปนาวุธ เพื่อแลกกับการบรรเทาการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ แต่ข้อเรียกร้องของเขาดูไม่น่าจะยุติภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม มุนกล่าวเมื่อวันศุกร์ (24 กันยายน) ว่าเขามั่นใจว่าในที่สุดเกาหลีเหนือจะเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ อีกครั้ง แต่เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นก่อนวาระของเขาจะสิ้นสุดในปีหน้าหรือไม่

 

ขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันระบุในการแถลงต่อสมัชชาสหประชาชาติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าเขาต้องการการทูตที่จริงจังและยั่งยืนเพื่อดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์บนคาบสมุทรเกาหลี

 

เกาหลีเหนือปฏิเสธการทาบทามของสหรัฐฯ ให้เข้าสู่การเจรจา และหัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังปรมาณูของสหประชาชาติกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า โครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือกำลังเดินหน้าเต็มกำลัง ก่อนหน้านี้ รีแทซอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือระบุกับ KCNA ว่าสหรัฐฯ ควรถอนนโยบายที่เป็นสองมาตรฐานและเป็นปรปักษ์เพื่อยุติภาวะชะงักงัน นอกจากนี้เกาหลีเหนือมักวิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบประจำปีของเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ด้วย

 

ภาพ: JORGE SILVA / POOL / AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising