ไวน์บาร์ลับๆ ย่านโอลด์ทาวน์ ที่ซ่อนอยู่ในคาเฟ่
วันก่อนเราได้มีโอกาสพาไปร้าน The Pastry&Co. คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นในย่านโอลด์ทาวน์กันมาแล้ว แต่จะบอกว่ามันยังไม่จบ! ถ้ายังไม่อยากกลับบ้าน หลังจาก 5 โมงเย็นทั้งร้านจะเปลี่ยนเป็นไวน์บาร์ทันที ที่นี่มีไวน์ให้เลือกหลายตัว มี Natural Wine ด้วย เหมาะกับมานั่งชิลๆ กับแก๊งเพื่อนหรือจะมาเดตก็ได้ นอกจากไวน์สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือที่นี่มีทาปาสสไตล์ไทยๆ ไว้กินคู่กับไวน์อีกด้วย
The Vibe
ตัวร้านไวน์จะตั้งอยู่ทางชั้น 2 ของตึก เช่นเคยว่าการตกแต่งให้บรรยากาศสบายๆ เหมือนได้มาจิบไวน์ที่บ้านเพื่อน ด้วยการจัดวางเก้าอี้ที่หน้าตาไม่เหมือนกัน ทำให้ภาพรวมแอบมีความสนุกขึ้นนิดๆ และที่ชั้นนี้ยังมีโต๊ะที่ค่อนข้างส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ใครอยากมาเดตร้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ไม่หมดเพียงเท่านั้น ชั้น 3 ของตึกจะเป็นห้องที่มีโต๊ะยาว เหมาะกับจัดงาน จัดเวิร์กช็อปมากๆ และที่สำคัญช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกห้องนี้แสงสวยมากๆ
The Taste
ที่นี่เป็นไวน์บาร์ที่มีไวน์ให้เลือกค่อนข้างเยอะและหลากหลายชนิด แอบบอกนิดหนึ่งว่าราคาเป็นมิตรด้วย ส่วนเมนูอาหารจะเป็นสไตล์ไทยทาปาส ที่ทางร้านอยากดึงเอาบริบทความเป็นไทยในย่านโอลด์ทาวน์มาทำใหม่ให้ร่วมสมัยขึ้น และรสชาติไม่ได้จัดจนเกินไป กินคู่กับไวน์ได้เพลินๆ
ไทยทาปาสที่นี่จะมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่กินเล่นๆ ไปจนถึงกินจริงจัง สำหรับใครที่อยากได้ของกินเล่น เพลินๆ กรอบๆ แนะนำให้สั่ง ข้าวเกรียบกุ้งย่าง (130 บาท) ที่นี่เขาทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่เอากุ้งมาสับ นึ่ง แล้วก็ทอด เพราะฉะนั้นเราจะได้สัมผัสกับเนื้อกุ้งแบบเต็มๆ หรือถ้าอยากได้อะไรที่ได้เคี้ยวๆ หน่อย คางกุ้งกรอบ (130 บาท) ก็เป็นตัวเลือกที่ดี สามารถเข้าได้กับทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง
ต่อมาเป็นเมนูที่มีความแน่นและจัดจ้านขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งคือ ไก่ทอดเครื่อง (150 บาท) ที่เรียกว่าไก่ทอดเครื่องเพราะตัวแป้งเขาได้มีการผสมเครื่องแกงเข้าไปด้วย เวลากินก็ได้ทั้งความกรอบและหอมเครื่องแกงแบบไทยๆ ต่อมาเป็น ตำหมึกดำมะม่วงเบา (220 บาท) ปกติมะม่วงเบาคนมักจะเอาไปทำเป็นยำต่างๆ แต่จานนี้เขาใส่หมึกดำลงไปด้วย และใส่ทั้งเนื้อปลาหมึกและปลาหมึกป่นลงไป โดยรวมจะออกเปรี้ยวๆ กินคู่กับไวน์ขาวแล้วเข้ากันมากๆ
อีกเมนูที่น่าตื่นเต้นว่าที่นี่มีเมนูนี้ด้วยคือ ไส้อั่วมะแขว่น (180 บาท) ไส้อั่วที่นี่ทำเองทุกขั้นตอนเช่นกัน ตั้งแต่ผสม ยัดไส้ ย่าง กินคู่กับมะแขว่น ให้ความเผ็ดชา คล้ายหม่าล่า เป็นเมนูที่แปลกใหม่ดี สำหรับสายเนื้อ แจ่วเนื้อทาร์ทาร์ (250 บาท) เป็นเมนูที่อยากให้เปิดใจลอง หน้าตาเขาจะเหมือนยุกเกะ แต่ปรับให้เป็นไทยมากขึ้น มีข้าวคั่ว มีพริก และข้างบนจะเป็นไข่ดองน้ำปลา
เมนู ข้าวตังแกงเผ็ดเป็ดรมควัน (180 บาท) เป็นเมนูที่ฉีกกฎการกินข้าวตังแบบเดิมๆ ออกไปเลย ในหนึ่งคำมีหลายเท็กซ์เจอร์มาก ทั้งความกรอบ ทั้งนุ่ม และมีส่วนประกอบหลากหลาย เช่น มะพร้าวย่าง สับปะรดย่าง ตัวเป็ดรมควันไม่เหนียว โดยรวมเหมือนได้กินแกงที่มีความกรอบๆ เมนูสุดท้ายคือ เนื้อย่างพริกมะกอกป่า (230 บาท) เนื้อจะเป็นเนื้อโคขุนไทย เป็นวัตถุดิบท้องถิ่น กินคู่กับผักก้านจอง จิ้มกับน้ำพริกมะกอกป่าย่าง ให้อารมณ์เหมือนน้ำพริกปลาร้า แต่ทางร้านไม่ได้ใส่ปลาร้า แนะนำให้สั่งคู่กับ ข้าวจี่ (50 บาท) มันจะได้กลิ่นสโมก เวลากินคู่กับไวน์จะเข้ากันแบบสุดๆ
Good for
ร้านนี้เหมาะกับคนอยากหาที่นั่งชิลในย่านโอลด์ทาวน์ จะมากับแก๊งเพื่อนสัก 3-4 คนก็ได้ หรือใครที่กำลังมองหาร้านไว้เดตวันวาเลนไทน์ร้านนี้ก็เหมาะมากๆ เช่นกัน
KiKi Bottle Shop
Open: ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 17.00-00.00 น.
Address: ติดถนนพระสุเมรุ
Budget: 200-1,000 บาท
Facebook: KiKi Bottle Shop
Map: