หากเอ่ยคำว่า ‘ข้าวแห้ง’ หรือ ‘ข้าวต้มแห้ง’ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน ข้าวต้มแห้งคือข้าวสวยทรงเครื่องที่เสิร์ฟแยกมาพร้อมน้ำซุป เป็นวัฒนธรรมการกินโบราณที่ชาวจีนหอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาพร้อมกับเสื่อผืนหมอนใบ ปัจจุบันขึ้นชื่อในแถบจังหวัดสมุทรสงคราม ราชบุรี ชลบุรี และภูเก็ต แต่หากจะหาเจ้าในกรุงเทพฯ ที่ทำข้าวต้มแห้งได้อร่อยจริงจัง บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ ข้าวต้มแห้งเฮียหนวด คือร้านที่ทำข้าวต้มแห้งได้อร่อยจริงจัง จะให้สั่งมากินแค่ชามเดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ร้านนี้มีที่มาจาก พรเศก ภาคสุวรรณ ชายหนุ่มหนวดงามผู้หลงใหลในอาหารชนิดนี้ ได้เดินทางตระเวนชิมข้าวต้มแห้งตามร้านมีชื่อทั่วประเทศ กระทั่งไปเจอสูตรเด็ดของญาติที่แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงพกเอาสูตรที่ถูกปากนี้เข้ากรุงเทพฯ แล้วเปิดร้านของตัวเองที่ถนนสี่พระยาใกล้วัดหัวลำโพง ใช้สูตรจากแปดริ้วมาเป็นตำรับของทางร้าน
ข้าวต้มแห้งเฮียหนวดให้เครื่องแทบท่วมข้าว วัตถุดิบที่ใช้ก็คัดสรรมาอย่างดี เน้นความสดและสะอาดเป็นสำคัญ เฮียหนวดเลือกหมูจากเขียงหมูอนามัย ใช้ผักปลอดสาร รวมถึงเครื่องปรุงคุณภาพเยี่ยม ดังนั้น ข้าวต้มแห้งทุกชามจึงมั่นใจได้ถึงความอร่อย พื้นที่ปรุงหน้าร้านก็ดูสะอาดสะอ้าน ชวนเข้าไปนั่ง
การทำความรู้จักกับข้าวต้มแห้งเฮียหนวด ขอแนะนำให้เริ่มที่เมนู ข้าวต้มแห้งกระดูกหมู (50 บาท) ทางร้านใช้ข้าวเสาไห้ผสมกับข้าวหอมมะลิหุงอย่างดี โปะด้วยหมูบะช่อ กระดูกหมูอ่อน กระเพาะหมู และลูกชิ้น ราดด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว โรยทับด้วยกากหมูสูตรเด็ดของทางร้าน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปตำรับแปดริ้ว เวลากินให้คลุกเคล้าเครื่องจนเข้ากัน จากนั้นใครสะดวกจะกินแบบแห้งแล้วซดน้ำซุปตาม หรือจะเติมน้ำซุปลงไปให้พอขลุกขลิกเพื่อความคล่องคอ ก็ตามอัธยาศัย
นอกจากวัตถุดิบดีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เคล็ดลับความอร่อยของทางร้านคือ ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน หมูบะช่อต้องผสมเนื้อปลาอินทรีเค็มเพื่อความหอมและกลมกล่อม กระดูกหมูอ่อนนำมารวนกับเต้าเจี้ยวและซีอิ๊ว กระเพาะหมูล้างและลวกอย่างสะอาด ไร้กลิ่นกวนใจ
ส่วนน้ำซุปที่เป็นสูตรเฉพาะจากทางแปดริ้ว ใช้กระดูกหมูปริมาณมากลงไปเคี่ยวเพื่อความเข้มข้น ได้ความหวานจากหัวไชเท้า และความเผ็ดร้อนโล่งคอจากพริกไทยที่ทางร้านเลือกใส่ทั้งชนิดป่นและชนิดเม็ด
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ กากหมูสูตรเด็ดที่ทางร้านทำต่อวัน เฮียหนวดอยากให้ลูกค้าได้รสสัมผัสจากกากหมูแบบเต็มคำ จึงเลือกใช้มันหมูแข็งหรือหมูสามชั้นแบบไม่ติดหนัง นำมาหั่นเป็นชิ้นหนาแล้วทอดถึงสองครั้งเพื่อความฟูกรอบ แล้วนำไปคลุกเกลือเป็นการปิดท้าย เรียกว่าอร่อยเคลิ้มจนต้องแยกสั่งเฉพาะกากหมูมาเคี้ยวเล่น
กลับมาที่เมนู ใครที่ชอบแบบเครื่องเน้นๆ สั่ง เกาเหลาแห้ง (50 บาท) ที่เสิร์ฟมาแบบแยกเครื่องแยกข้าวได้ ชามนี้หมูบะช่อต้องมี ลูกชิ้น กากหมู ขาดไม่ได้ ประเภทเครื่องในมีตับหมู กระเพาะหมู และเลือดหมู มีซุปร้อนๆ เสิร์ฟมาด้วยเช่นเคย
พ้นจากข้าวต้มแห้งประเภทหมู ยังมีเมนูเอาใจคนรักซีฟู้ดคือ ข้าวต้มแห้งทะเลเกยตื้น (90 บาท) ความอร่อยอยู่ที่ความสดของเนื้อปลากะพงและกุ้ง แถมด้วยฮือก้วยที่ลวกอย่างพอดี สมทบด้วยปลาหมึกที่นำไปรวนกับกระเทียม กินคู่กับเต้าหู้แผ่นทอด และน้ำจิ้มรสแซ่บที่มีส่วนผสมของเต้าเจี้ยว ขิงอ่อน และพริกขี้หนูซอย
ถ้าเบื่อข้าวแต่ไม่เบื่อเครื่อง ลองสั่งเมนู เกี้ยมอี๋น้ำ (50 บาท) ราดซุปมาสมใจ Soup Lover ชามนี้ใส่เครื่องเช่นเดียวกับเกาเหลาแห้ง แต่ใส่ใบตำลึงเพิ่มมาให้ด้วย เสิร์ฟพร้อมกับเกี๊ยวทอดกรอบ เวลากินให้ใส่เกี๊ยวลงในชาม จะเสริมรสให้ทั้งเกี๊ยวและเกี้ยมอี๋ให้หอมอร่อย
หากติดใจเกี๊ยวกรอบ สั่งแยกเฉพาะ เกี๊ยวกรอบ (20 บาท) ได้ ไส้เกี๊ยวทำจากหมูบดปรุงรสกลมกล่อม จิ้มกับน้ำจิ้มหวาน
ในใบสั่งอาหาร เฮียหนวดบอกว่า “ร้านเราทุกอย่างเล็กๆ แต่คุณภาพไม่เล็กนะครับ ทุกคนเท่ากัน ไม่มีพิเศษครับ” ไม่มีพิเศษในที่นี้ รวมถึงทุกเมนูของข้าวต้มแห้ง เฮียหนวดไม่มีขนาด ‘พิเศษ’ ให้สั่ง เพราะทางร้านคิดสัดส่วนที่ลงตัวกับความอร่อย ดังนั้น หากยังไม่อิ่มหรืออยากอร่อยต่อให้หนำใจอีกสักหน่อย เห็นทีคงต้องสั่งเพิ่มอีกชาม
ข้าวต้มแห้งเฮียหนวด (แปดริ้ว)
Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-22.00 น.
Address: 95 ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ (ห่างจากวัดหัวลำโพง 120 เมตร)
Budget: 50-80 บาท
Contact: 0 2038 6964
Page: www.facebook.com/Heanuad
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
- จอดรถที่วัดหัวลำโพง แล้วเดินมาที่ร้าน พิกัดร้านอยู่ก่อนถึงบริษัทรองเท้านันยาง (หากเห็นป้ายนันยางแปลว่าเลยร้านแล้ว) หน้าร้านมีโลโก้ใบหน้าเฮียหนวดชัดเจน ช่วงมื้อเที่ยงลูกค้าจะเยอะสักนิด เพราะร้านอยู่ใกล้กับสำนักงานเขตบางรัก