พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ใจความสำคัญคือการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่นำร่องหรือพื้นที่สีฟ้า โดยไม่ต้องกักตัว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายภายในประเทศ นำมาซึ่งการออกระเบียบ ประกาศและคำสั่ง เพื่อรองรับการเปิดประเทศที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน
THE STANDARD ประมวลสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดประเทศ
1. วันที่ 21 ตุลาคม พล.อ. ประยุทธ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กใจความสำคัญ จะเพิ่มจำนวนรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ำกลุ่มแรก ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัวจากเดิม 10 ประเทศ เป็น 46 ประเทศ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่เดือดร้อนกันอย่างมากมานาน
2. ต่อมา ธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ลงนามออกประกาศศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ เรื่อง ‘การกำหนดรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13)’
3. รายละเอียดสำคัญระบุคือการอนุมัติประเทศและพื้นที่ที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) “ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล” ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และการเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยในประกาศดังกล่าวระบุถึงรายชื่อประเทศทั้ง 46 ประเทศ และแนวทางการปฏิบัติมาตรการการเดินทางเข้า-ออก ประเทศหลัง 1 พฤศจิกายน ซึ่ง 46 ประเทศประกอบด้วย
-
- ออสเตรเลีย
- ออสเตรีย
- บาห์เรน
- เบลเยียม
- ภูฏาน
- บรูไนดารุสซาลาม
- บัลแกเรีย
- กัมพูชา
- แคนาดา
- ชิลี
- จีน
- ไซปรัส
- สาธารณรัฐเช็ก
- เดนมาร์ก
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เยอรมนี
- กรีซ
- ฮังการี
- ไอซ์แลนด์
- ไอร์แลนด์
- อิสราเอล
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- ลัตเวีย
- ลิทัวเนีย
- มาเลเซีย
- มอลตา
- เนเธอร์แลนด์
- นิวซีแลนด์
- นอร์เวย์
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- กาตาร์
- ซาอุดีอาระเบีย
- สิงคโปร์
- สโลวีเนีย
- สาธารณรัฐเกาหลี
- สเปน
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหราชอาณาจักร
- สหรัฐอเมริกา
- ฮ่องกง
4. วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด-19) เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว โดยมีบัญชีรายชื่อจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 17 จังหวัด ประกอบด้วย
-
- ภูเก็ต
- สุราษฎร์ธานี
- กรุงเทพฯ
- สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
- กระบี่
- 6.พังงา
- ประจวบคีรีขันธ์ (ต.หนองแก อ.หัวหิน)
- เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ)
- ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง, ต.จอมเทียน ต.บางเสร่ เกาะสีชัง อ.ศรีราชา)
- ระนอง (เกาะพยาม)
- เชียงใหม่ (อ.เมือง, อ.แม่ริม, อ.แม่แตง, อ.ดอยเต่า)
- เลย (อ.เชียงคาน)
- บุรีรัมย์ (อ.เมือง)
- หนองคาย (อ.เมือง, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.ท่าบ่อ, อ.สังคม)
- อุดรธานี (อ.เมือง, อ.นายูง, อ.หนองหาน, อ.กุมภวาปี, อ.บ้านดุง)
- ระยอง (เกาะเสม็ด)
- ตราด (เกาะช้าง)
5. สำหรับแนวทางการเดินทางเข้าประเทศมีดังนี้
- เดินทางจากทุกประเทศ, ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบโดส ต้องเข้าสู่การกักกันโรคในสถานกักกันที่รัฐจัดให้
- ผู้เดินทางจากประเทศที่รัฐกำหนดมายังจังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยว ต้องได้รับวัคซีนครบโดส และจะต้องเตรียมเอกสารและปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
- เดินทางมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และเดินทางมาทางอากาศเท่านั้น
- มีเอกสารรับรองการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม
- มีผลการตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง
- ทำประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- มีใบจองที่พัก
- เมื่อเดินทางมาถึงจะต้องตรวจหาเชื้อซ้ำโดยทันที
- เมื่อผลเป็นลบถึงจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่อื่นได้
- เดินทางเข้าโครงการแซนด์บ็อกซ์ เป็นไปตามเงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุข
6. ต่อมาราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 36) ใจความสำคัญคือการ ยกเลิกการเคอร์ฟิวในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง หรือพื้นที่สีฟ้า และให้ผู้ประกอบการผับ บาร์ และสถานบันเทิงเตรียมความพร้อม แต่ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ มีผล 23.00 น.ของวันที่ 31 ตุลาคมนี้
7. วันที่ 22 ตุลาคม พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวถึงเรื่องการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ว่า “จะพยายามนำเสนอ ศบค. ในสัปดาห์หน้าเรื่องการเปิดเธค ผับ บาร์ คาราโอเกะ สำหรับเที่ยวกลางคืน คงจะไปทำความเข้าใจกับทาง ศบค. ว่า ส่วนนี้คือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวหรือเยาวชนไทย ซึ่งผมจะไม่พูดถึงกรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ เป็นอะไรที่ค่อนข้างควบคุมได้ยาก แต่ต่างจังหวัดจะมีโซนนักท่องเที่ยวซึ่งน่าจะควบคุมง่ายกว่า”
8. วันที่ 23 ตุลาคม ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ศบค. กำหนดโครงการเปิดประเทศแบบไม่กักตัว เริ่ม 1 พฤศจิกายนนี้ สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ในประเทศไทยและสถานการณ์ทั่วโลกมีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้น โดยแบ่งออก เป็น 3 ช่วงระยะเวลาที่ชัดเจน คือ
- ระยะที่ 1 ช่วงวัน 1-30 พฤศจิกายน จะเปิดพื้นที่ 17 จังหวัดนำร่อง
- ระยะที่ 2 ช่วงวัน 1-31 ธันวาคม จะเปิดเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 15% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดและเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดประเทศเพื่อนบ้า
- ระยะที่ 3 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 จะเปิดพื้นที่นำร่องด้านเศรษฐกิจ จังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
9. ธนกร ระบุด้วยว่า ในแต่ละช่วงเวลา จะมีการปรับหลักเกณท์ที่เหมาะสม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศและประเทศต้นทาง รวมทั้งยังมีการประเมินผลการเข้าราชอาณาจักรทุก 1-2 สัปดาห์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในของประเทศนั้นๆ เพื่อเป็นการพิจารณาความเหมาะสมของประเทศต้นทางด้วย
อ่านเพิ่มเติม:
- นายกฯ แถลงการณ์ เปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ชี้ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกในการปกป้องรักษาชีวิตประชาชน
- ประยุทธ์ เผยไทยเตรียมเปิดให้ผู้เดินทางจาก 46 ประเทศ เข้ามาท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 พ.ย. นี้
- กต. ประกาศ 46 ประเทศ และแนวปฏิบัติเดินทางเข้าไทยในวันที่ 1 พ.ย. นี้
- ราชกิจจาฯ แพร่ข้อกำหนดรับเปิดประเทศ ยกเลิกเคอร์ฟิวเฉพาะพื้นที่นำร่อง 31 ต.ค. ผับ-บาร์ ให้เตรียมพร้อมแต่ยังไม่เปิด
- เช็กเงื่อนไขเดินทางเข้าประเทศ และจังหวัดที่เที่ยวได้ 1 พฤศจิกายนนี้
- รมว.ท่องเที่ยว เตรียมเสนอ ศบค. สัปดาห์หน้า เปิดผับ-บาร์ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังรายได้เข้าประเทศ
- มาตรการเดินทางเข้า-ออกไทยหลังเปิดประเทศ สำหรับชาวต่างชาติ เริ่ม 1 พ.ย.