×

เดอ บรอยน์ ยอมรับร่างกายยังมีผลกระทบจากการติดโรคโควิด ดู Squid Game ในช่วงกักตัว

16.12.2021
  • LOADING...
Kevin De Bruyne

ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีชงของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างแท้จริงหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึง 2 ครั้ง รวมถึงการติดเชื้อโควิด ที่ทำให้ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวกลับมาอย่างเต็มที่ และเปิดเผยว่าได้ใช้เวลาว่างระหว่างกักตัวดูซีรีส์ดังอย่าง Squid Game ด้วย

 

เดอ บรอยน์ เรียกเสียงฮือฮาได้อีกครั้งหลังจากที่ทำคนเดียว 2 ประตูในเกมที่แชมป์พรีเมียร์ลีกถล่มลีดส์​ ยูไนเต็ดแบบไม่ไว้หน้าขาดลอยถึง 7-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณครั้งแรกว่า ยอดมิดฟิลด์ชาวเบลเยียมเริ่มเรียกจังหวะการเล่นเดิมๆ กลับมาได้อีกครั้ง

 

ฟอร์มดังกล่าวทำให้เดอ บรอยน์ เริ่มสบายใจขึ้น โดยกล่าวถึงปัญหาการเจ็บป่วยในช่วงปีที่ผ่านมาว่า “จังหวะการเล่นของผมเริ่มดีขึ้น ฤดูกาลนี้มันเป็นแบบนี้ ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมโดนเตะที่หน้า (ในเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) โดนหวดเข้าที่ข้อเท้า (ในศึกยูโร 2020) และผมก็ติดโควิดหลังจากนั้น แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นฟุตบอล

 

“หลังหายจากโควิดผมกลับมาลงซ้อมหนักเท่าที่ผมจะทำได้ ซึ่งตามตารางมันไม่ง่ายเลยสำหรับผม แต่ผมก็พยายามทำทุกอย่างให้ดี ผมลงเล่น 2 เกม และได้เป็นตัวสำรอง 2 เกม ซึ่งผมก็พยายามทำในสิ่งที่ผมต้องทำ

 

“ผมรู้สึกว่าบางครั้งร่างกายของผมยังพยายามปรับตัวอยู่ เพราะมีช่วงที่ผมวิ่ง 2-3 ครั้ง และยังรู้สึกมีอาการอยู่หลังจากที่ติดโควิด”

 

ดาวเตะจอมเทคนิคยังเปิดเผยถึงอาการในระหว่างที่ป่วยเป็นโรคโควิดว่า “ผมป่วยหนักอยู่ 4 วัน ตอนแรกผมคิดว่าผมเป็นหวัด แต่ผมก็ไม่เคยเป็นหวัดแบบนี้มาก่อนเลย ไม่รู้จะบอกอย่างไร แต่ผมมีไข้สูงโดยเฉพาะในตอนเย็น และเริ่มสูญเสียการได้กลิ่นและการรับรส หลังผ่านไป 5 วันก็เริ่มดีขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่จะรับรสและได้กลิ่น แต่ตอนนี้ผมโอเคแล้ว

 

“ผมต้องกักตัวอยู่ 10 วัน ดังนั้นผมเลยพยายามวิ่ง ผมอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ผมต้องอยู่ห่างจากครอบครัว ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวก็ไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อน แต่ผมไม่อยากให้ภรรยาและลูกติดด้วย การต้องเฝ้ามองพวกเขาจากหน้าต่างประตูมันเป็นสิ่งที่ทำใจได้ยาก

 

“ผมใช้เวลากับการดู Netflix เล่นเกม และบางครั้งก็ไปเล่นกับเด็กๆ โดยที่มีประตูกั้นอยู่ ผมได้ดู Squid Game ด้วย เรียกว่าผมดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยเลย”

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising