รัฐเคนทักกีของสหรัฐอเมริกา เผชิญกับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาและช่วยชีวิตผู้ประสบภัย ก่อนที่ฝนจะตกลงมาและทำให้ระดับน้ำกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีก
พยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า แนวปะทะมวลอากาศเย็นจะทำให้สภาพอากาศในวันเสาร์นี้ (30 กรกฎาคม) สดใสขึ้นสำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำท่วม ซึ่งหมายความว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมีอุปสรรคน้อยลงในการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้ประสบภัย ขณะที่พวกเขายังคงเดินหน้าช่วยเหลือชาวบ้านที่หนีน้ำท่วมขึ้นไปติดอยู่บนหลังคาบ้าน
แอนดี บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับการช่วยเหลือเกือบ 300 คนในรัฐเคนทักกี ซึ่งประมาณ 100 คนในจำนวนนี้ได้รับการช่วยเหลือออกจากพื้นที่โดยเครื่องบิน
อย่างไรก็ดี ทางการคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายสัปดาห์จากนี้ เนื่องจากพื้นที่ตามเนินเขาและหุบเขายากจะเข้าถึง ประกอบกับคาดว่าจะมีฝนตกลงมาอีกในวันอาทิตย์
“ยังมีประชาชนติดอยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมาก ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ทราบว่าติดอยู่ที่ไหน” บีเชียร์กล่าวเมื่อวันศุกร์ “เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาพวกเขาทั้งหมด”
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศภาวะภัยพิบัติในรัฐเคนทักกี เพื่อให้เขตปกครองกว่า 12 เขตในรัฐเคนทักกีได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางโดยตรง
ความท้าทายมากมายยังคงอยู่ รวมถึงการที่ชุมชนบางแห่งไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลจากเว็บไซต์ PowerOutage.us ซึ่งติดตามพื้นที่ที่เกิดไฟฟ้าดับ เผยว่า มากกว่า 17,000 ครัวเรือนทั่วรัฐเคนทักกีไม่มีไฟฟ้าใช้ ณ เวลา 04.00 น. ของวันเสาร์ ขณะที่มีความเป็นไปได้ว่าระดับน้ำจะกลับมาท่วมสูงขึ้นอีก โดยลำธารและแม่น้ำบางแห่งในรัฐเคนทักกียังคงมีระดับน้ำสูงขึ้นในวันศุกร์
ทั้งนี้ ฝนตกหนักถล่มรัฐเคนทักกีเมื่อวันพุธ ส่งผลให้ถนนหนทางและบ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือนจมอยู่ใต้น้ำ โดยในเมืองไวต์สเบิร์ก น้ำท่วมอาคารของ Appalshop ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านการศึกษาและศิลปะ ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมแอปพาเลเชียนมานานกว่าครึ่งศตวรรษ
ภายในวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหน่วยงานของรัฐและกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐฯ เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตโดยเรือและเฮลิคอปเตอร์ แต่ในคืนวันศุกร์ มีการยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 25 คน และยังมีอีกหลายคนที่ยังสูญหาย ในบรรดาผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้มีเด็กอย่างน้อย 6 คน ซึ่ง 4 คนในจำนวนนี้มาจากครอบครัวเดียวกัน
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง: