×

ใคร ฮาเวิร์ตซ์? รู้จักซูเปอร์สตาร์บุนเดสลีกาคนใหม่ ย้อนไปถึงจุดสตาร์ท

26.05.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • คุณครูลูกหนังคนแรกของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ คือคุณปู่ของเขาเอง ที่จูงมือหลานคนนี้ให้แหย่เท้าก้าวแรกเข้าสู่โลกของเกมฟุตบอล
  • จากทีมระดับท้องถิ่นไปสู่ทีมระดับแคว้น และสุดท้ายคือทีมระดับชาติอย่างเลเวอร์คูเซน การก้าวเดินของเจ้าหนูมหัศจรรย์รายนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
  • ปัญหาใหญ่ในชีวิตที่ฮาเวิร์ตซ์ควบคุมไม่ได้คือ เรื่องสรีระที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงวัยรุ่น
  • ครั้งหนึ่งฮาเวิร์ตซ์ต้องพลาดการลงสนามในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เพราะติดสอบในระดับ A-Levels

4 ประตู จาก 2 นัด หลังฟุตบอลกลับมารีสตาร์ทอีกครั้งให้กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน และผลงานรวม 14 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ จากการเล่นทั้งหมด 36 นัดในฤดูกาลนี้ ทำให้ชื่อของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

 

และยิ่งผลงานร้อนแรงมากขึ้นเท่าไร ก็ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ที่ต่างปรารถนาจะได้ตัว ‘Wunderkind’ วัย 20 ปี ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะด้วยฝีเท้า พรสวรรค์ ไปจนถึงรูปร่างสูงโปร่งและหน้าตาที่หล่อเหลาในระดับเป็น Poster Boy ได้สบายๆ

 

แต่สำหรับหลายคนน่าจะยังคำถามที่อยากรู้

 

ตกลงแล้ว ไค ฮาเวิร์ตซ์ คนนี้คือ ‘ใคร’ กันแน่

 

มีวันนี้ได้เพราะคุณปู่

เส้นทางลูกหนังของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เริ่มต้นที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า มาเรียดอร์ฟ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองอาเคน สถานที่ซึ่งเขาได้เริ่มต้นขัดเกลาฝีเท้าของตัวเองอย่างเงียบๆ 

 

คุณครูลูกหนังคนแรกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือคุณปู่ของเขาเองที่จูงมือหลานคนนี้ให้แหย่เท้าก้าวแรกเข้าสู่โลกของเกมฟุตบอล

 

“คุณปู่เป็นคนที่พาผมเข้ามาในเกมฟุตบอล” ฮาเวิร์ตซ์เล่าเรื่องราวของเขา “เขาช่วยให้ผมได้เริ่มต้นก้าวแรก นอกจากนี้ก็มีพี่ชายและพ่อที่พยายามจะพาผมออกมาเล่นข้างนอกในช่วงเด็กๆ ทุกคนคลั่งไคล้ในเกมลูกหนัง และครอบครัวของเราก็เป็นครอบครัวของคนบ้าบอล เรารักฟุตบอลและทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมัน ดังนั้น ผมจึงโตขึ้นมากับสิ่งเหล่านี้ และนั่นคือช่วงที่ความคลั่งไคล้ของผมได้เริ่มต้น”

 

ฮาเวิร์ตซ์เริ่มต้นเล่นฟุตบอลแบบทีมตั้งแต่อายุแค่ 4 ขวบ! โดยทีมแรกในชีวิตของเขาคือ อาเคน มาเรียดอร์ฟ ทีมฟุตบอลที่มีประธานสโมสรชื่อ ริชาร์ด ฮาเวิร์ตซ์ หรือคุณปู่ของเขานั่นเอง เพียงแต่ถึงจะเป็นคนที่มีแววมาตั้งแต่เด็กๆ แต่การจะเป็นนักฟุตบอลจริงๆ มันไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

 

“ทุกคนบอกเสมอว่า ผมมีโอกาสจะเล่นฟุตบอลอาชีพได้ แต่มันก็ต้องใช้เวลาอีก 10-12 ปี กว่าที่จะได้เล่นในบุนเดสลีกาหรือลีกระดับท็อป”

 

จากทีมในบ้านเกิดที่มาเรียดอร์ฟ ซึ่งเจ้าหนูไคลงเล่นข้ามรุ่นด้วยการเล่นในทีมรุ่นอายุมากกว่า 2 ปี มาตลอด ในปี 2009 ตอนที่เขาอายุครบ 10 ขวบ เขาก็ได้ย้ายไปเล่นให้สโมสรอาเลมานเนีย อาเคน ทีมที่ใหญ่ที่สุดของแคว้น ซึ่งขณะนั้นเป็นทีมในระดับบุนเดสลีกา 2 

 

ที่สำคัญคือนี่คือทีมโปรดของเขาด้วย

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Kai Havertz 💥⚽️✌🏼 (@kaihavertz29) on

 

เตะบอลเสร็จ มีเวลาว่างก็มาเล่นเปียโนหน่อย

 

ก้าวต่อมาและก้าวต่อไป

ด้วยพรสวรรค์ในตัว ทำให้ฮาเวิร์ตซ์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้แม้ว่าเขาจะมีความสุขกับการได้อยู่ในทีมอาเลมาเนีย อาเคน โดยเฉพาะกับการได้เห็นฮีโร่ในดวงใจ เอริก ไมเยอร์ หัวหอกเจ้าเวหา ลงสนามแค่ไหน แต่โชคชะตาก็นำพาเขาให้ต้องเดินทางต่ออย่างรวดเร็ว

 

“ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมคือ ตอนที่ได้เห็น เอริก ไมเยอร์ ยืนเป็นศูนย์หน้า” ฮาเวิร์ตซ์เล่าถึงฮีโร่ของเขาด้วยความภูมิใจ “อาเคนมีนักเตะเก่งๆ หลายคนเลย และคนเหล่านี้คือฮีโร่ในตอนเด็กๆ ของผม”

 

หลังจาก 1 ปี กับอาเคน เจ้าหนูไคได้ไปสู่ทีมในบุนเดสลีกาอย่างเลเวอร์คูเซน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ส่งแมวมองมาติดตามส่องดูฟอร์มของเขามาตั้งแต่สมัยอยู่กับมาเรียดอร์ฟ ซึ่งหนึ่งในเกมที่สร้างความประทับใจก็คือเกมที่เจอกับ ‘ห้างขายยา’ นี่เอง

 

สลาโวเมียร์ ชาเนียซกี โค้ชเยาวชนเลเวอร์คูเซน เล่าถึงความประทับใจของเจ้าหนูจากทีมอาเคน “ไคเล่นให้ทีมอายุต่ำกว่า 12 ปี ของอาเคน เขาเด็กกว่าทุกคนในสนาม และลงเล่นเจอกับเลเวอร์คูเซนชุดอายุต่ำกว่า 12 ปี ผมจำไม่ได้ว่าเกมจบที่เท่าไร พวกเราน่าจะชนะ 8-3 เพียงแต่เขาเป็นคนที่ยิงใส่เราทั้ง 3 ประตู นั่นคือความประทับใจแรกของผมที่มีต่อไค”

 

สุดท้าย เลเวอร์คูเซนดึงตัวเขามาร่วมทีมในปี 2010 และดูเหมือนพัฒนาการของเขาจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเจอเรื่องยากแค่ไหน เขาก็ก้าวผ่านมันมาได้เสมอ ยกเว้นเพียงสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้จะจัดการกับมันได้อย่างไร นั่นคือเรื่องสรีระที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป

 

“ตอนอายุ 14 หรือ 15 ผมยังเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในทีมอยู่เลย แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมต้องทำความคุ้นเคยกับขาของผมที่ยาวขึ้น ซึ่งมันส่งผลต่อวิธีการเล่นทุกอย่างของผม มันเป็นช่วงที่ยากมาก โดยเฉพาะในช่วงที่เล่นให้ทีมยู-15 จนถึงยู-16 ช่วงนั้นผมไม่ค่อยได้ลงตัวจริงมากนัก ส่วนใหญ่จะต้องนั่งตัวสำรอง”

 

แต่สุดท้ายเจ้าหนูรายนี้ก็เอาชนะอุปสรรคได้อีกครั้ง และคราวนี้ไม่มีใครหยุดเขาได้แล้ว

 

 ไม่ได้เก่งแค่ลูกเท้า แต่ลูกหัว ไค ฮาเวิร์ตซ์ ก็ทำได้เยี่ยมไม่แพ้ เอริก ไมเยอร์ ฮีโร่ในวัยเด็กของเขา

 

เกิดมาเพื่อเป็นซูเปอร์สตาร์

ไค ฮาเวิร์ตซ์ เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เลเวอร์คูเซนคว้าแชมป์เยอรมันรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ประจำปี 2016 โดยในปีนั้นเขาทำได้ 18 ประตู จากการเล่น 26 นัด ในบทบาทเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งรวมถึงประตูเบิกร่องในเกมนัดชิงที่พบกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ด้วย

 

หลังจากนั้นในเดือนตุลาคม ปี 2016 เขาได้โอกาสลงเล่นประเดิมสนามในระดับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในนัดที่พบกับแวร์เดอร์ เบรเมน และทำให้กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ลงเล่นในบุนเดสลีกา

 

ก่อนที่จบฤดูกาล 2016/17 เขาจะลงสนามให้กับทีมมากถึง 24 นัด โดยทำไป 4 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะมีเด็กดาวรุ่งที่เพิ่งแจ้งเกิดสักคนทำผลงานได้ในระดับนี้

 

เรื่องนี้ เควิน โฟลลันด์ ดาวยิงประจำทีม การันตีฝีเท้าของฮาเวิร์ตซ์ให้ด้วยตัวเอง “เขามีความนิ่งและเทคนิคที่สูงมาก การตัดสินของเขาถูกต้องเสมอ ผมเห็นเขาขึ้นมาอยู่กับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ และพัฒนาการของเขาก็น่าเหลือเชื่อมาก เขากลายเป็นนักเตะคนสำคัญของเราในเวลาอันรวดเร็ว”

 

เก่งทั้งในสนามและในห้องเรียน

ถึงจะลงสนามแจ้งเกิดในเวทีบุนเดสลีกาแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งของชีวิต ไค ฮาเวิร์ตซ์ ก็ยังเป็นแค่ ‘เด็ก’ คนหนึ่ง

 

และหน้าที่ของเด็กทุกคนคือเรื่องของการเรียน ซึ่งเขาไม่ยอมทิ้งขว้างมันง่ายๆ ต่อให้มันจะทำให้เขาต้องเจอกับช่วงเวลาที่หนักหนาที่สุดของชีวิตก็ตาม

 

“ผมเคยต้องสอบในช่วงเวลาเดียวกับที่ผมต้องลงเล่นในเกมเดเอฟเบ โพคาล” ฮาเวิร์ตซ์เล่าความหลัง “ผมต้องสอบในวันพุธ ซึ่งก่อนหน้านั้นในคืนวันอังคารผมมีเกมนัดเยือนที่วันนั้นดันต้องเล่นถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ และไปตัดสินกันที่ยิงจุดโทษ ทำให้ผมกลับบ้านมาช้ามาก และผมต้องสอบในวันรุ่งขึ้น

 

“ผมไม่บอกนะว่าผลสอบมันออกมาเป็นอย่างไร!”

 

อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เพราะเขาเคยต้องพลาดเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในการเจอกับสุดยอดทีมของสเปนอย่างแอตเลติโก มาดริด เพราะติดสอบในระดับ A-Levels ซึ่งเลเวอร์คูเซนก็อนุญาตให้เขาลาได้ 3 วัน เพื่ออ่านหนังสือ

 

แต่เมื่อเอาชนะสนามการเรียนได้แล้ว ในสนามหญ้าสีเขียวก็ไม่มีใครหยุดเขาได้อีก

 

ไค ฮาเวิร์ตซ์ พลาดการลงสนามในฤดูกาลที่ 2 ของเขากับเลเวอร์คูเซนแค่ 4 นัดเท่านั้น และเปล่งประกายในฤดูกาลที่ 3 ของเขาเมื่อทำไป 17 ประตูในบุนเดสลีกา ทั้งๆ ที่อายุแค่ 19 ปี ก่อนที่จะกลายเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงได้ถึง 30 ประตูในบุนเดสลีกาช่วงเดือนธันวาคม ปี 2019 

 

นอกจากนี้เขายังกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามครบ 100 นัด ด้วยวัยแค่ 20 ปี 6 เดือน กับอีก 4 วัน ในเกมกับเอฟซี โคโลญจน์

 

ล่าสุดกับบทบาทใหม่ที่ขึ้นไปยืนกองหน้า ซึ่งช่วยทำ 4 ประตูจากนัดหลังสุดในเกมบุกไปเอาชนะแวร์เดอร์ เบรเมน 4-1 และชนะโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัก (ต่อหน้าแฟนบอลกระดาษนับหมื่นคน!) อีก 3-1 ทำให้เวลานี้ชื่อของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ กลายเป็นชื่อที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างพูดถึง

 

ย้ำอีกทีว่า ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงที่สุดตอนนี้ ด้วยลีลาการเล่นที่นุ่มนวลเหนือชั้น ด้วยความฉลาดของการเล่น และด้วยบุคลิกที่เหมือนอ่อนแต่แข็ง มีความเป็นผู้นำสูง เด็กคนนี้คือซูเปอร์สตาร์ของโลกอย่างแน่นอน

 

ดังนั้น มาทำความรู้จักไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย 🙂

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

 


 

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum 

 

FYI
  • ไค ฮาเวิร์ตซ์ เป็นผู้เล่นที่ถนัดเท้าซ้าย แต่ก็สามารถเล่นเท้าขวาได้ดี และยังเก่งในเรื่องลูกกลางอากาศด้วย เรียกว่าครบเครื่องต้มยำน้ำข้นอย่างแท้จริง
  • มีหลายสโมสรที่ให้ความสนใจในตัวเจ้าหนูมหัศจรรย์คนนี้ รวมถึง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล แต่ติดที่ค่าตัวที่เลเวอร์คูเซนตั้งไว้ 100 ล้านยูโรนั้น สูงเกินไป 
  • แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่คิดถึงการย้ายออกไปเล่นในพรีเมียร์ลีกเวลานี้
  • รูดี โฟลเลอร์ ตำนานวงการลูกหนังเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสโมสรเลเวอร์คูเซนเวลานี้ ยกย่องว่า ฮาเวิร์ตซ์คือนักฟุตบอลที่ ‘หนึ่งร้อยปีจะมีสักคน’
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising