×

จุรินทร์ ตอบทุกคำถาม-หน้ากากอนามัย โปร่งใสทุกขั้นตอน ตามจับคนกักตุนโก่งราคา ไม่เลือกปฏิบัติ

09.03.2020
  • LOADING...

วันนี้ (9 มีนาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อภายหลังแถลงข่าวการขับเคลื่อนมาตรการช่วยผลไม้ไทย สู้ภัยโควิด-19 โดยระบุว่า วันนี้เป็นวันที่ประกาศราคากลางว่าด้วยสินค้าและบริการทั้ง 3 ฉบับ ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกกรณี รายละเอียดโดยสรุปมีดังนี้

 

สำหรับรายละเอียดฉบับที่ 9 มีผลให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และผู้แทนจำหน่ายหน้ากากอนามัยจะต้องแจ้งข้อมูลต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณผลิต ปริมาณการส่งออก ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการคงเหลือ รวมถึงราคาจำหน่ายที่ต้องสอดคล้องกับต้นทุน ซึ่งทั้งหมดต้องแจ้งมาที่อธิบดีกรมการค้าภายใน ในทุกๆ วัน

 

หน้ากากประเภทที่ใช้ทางการแพทย์ (Surgical Mask) จะมีการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกไว้ชัดเจนคือไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น ซึ่งประเทศไทยสามารถผลิตได้เพียง 11 โรงงานเท่านั้น และมีกำลังการผลิตได้เดือนละประมาณ 36 ล้านชิ้น หรือผลิตต่อวันที่ 1.2 ล้านชิ้น ซึ่งนี่คือตัวเลขที่ผ่านการตรวจสอบจาก 11 โรงงานล่าสุด ทั้งนี้ หากผู้ใดจำหน่ายเกินราคานี้ จะถูกดำเนินคดี และมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเสี่ยงโดนข้อหาเพิ่มคือ จำหน่ายเกินราคาสมควร เช่น ขายเกินราคาที่ 5, 10 หรือ 14 บาทขึ้นไป อันนี้จะถือเป็นการค้ากำไรเกินควร และจะโดนอีกข้อหา ถูกโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ส่วนรายละเอียดฉบับที่ 10 เรื่องหน้ากากทางเลือก (หน้ากากที่มีความหลากหลาย) แล้วก็มีการนำเข้าบางส่วน การกำหนดราคาจำหน่ายปลีกก็คือ จะต้องขายในราคาไม่เกินต้นทุนนำเข้า หรือต้นทุนการผลิตภายในประเภท ยกตัวอย่าง หากนำเข้าในราคา 100 บาท จะขายให้ผู้บริโภคได้ไม่เกิน 160 บาท

 

เรื่องเจลล้างมือจะต้องไม่ขายเกินราคาที่ได้แจ้งไว้กับกรมการค้าภายใน และการต้องการเปลี่ยนราคาต้องได้รับอนุญาตก่อน ซึ่งยังไม่มีนโยบายที่จะอนุญาต

 

“ส่วนเรื่องการจัดสรรหน้ากากอนามัยจำนวน 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ไปยังภาคส่วนต่างๆ ได้มีศูนย์กระจายหน้ากากเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการบริหารจัดการร่วมกัน ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ในการที่จะจัดสรรปันส่วนต่อวันว่าหน้ากากเหล่านี้จะไปที่ไหนบ้าง

 

“ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทำการจัดสรรหน้ากากจำนวน 7 แสนชิ้น ไปยังโรงพยาบาลในทุกสังกัด ส่วนอีกจำนวน 5 แสนชิ้น จะถูกกรมการค้าภายในกระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ เช่น ร้านขายยา การบินไทย ร้านธงฟ้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าส่งที่อยู่ในระบบตลาดทั้งหมดนะครับตามที่ได้กำหนดไว้” จุรินทร์ กล่าว

 

ทั้งนี้ รมว.พาณิชย์ ย้ำว่า ทั้งหมดจะถูกบริหารจัดการเป็นแบบรายวัน เพราะตัวเลขของสินค้าอาจจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน อีกทั้งหากบุคลากรทางการแพทย์มีความต้องการใช้เพิ่มเติมมากกว่านี้ ก็อาจจำเป็นต้องปรับตัวเลข เช่น ปรับการส่งให้ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น และลดการส่งสินค้าสู่ประชาชนลง 

 

ส่วนกรณีที่กำลังเป็นข่าวร้อนอยู่ในขณะนี้ อย่างกรณีที่คนสนิทของรัฐมนตรีทำการกักตุนสินค้าหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น ทางกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการอย่างไรนั้น

 

จุรินทร์ กล่าวย้ำว่า “ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้นครับ”

 

ขณะที่ วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า “ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 89 ราย เป็นข้อหาขายเกินราคา 64 ราย และไม่แสดงราคาที่เห็นชัดเจนอีก 25 ราย ส่วนกรณีดังกล่าวทีมงานของกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าตรวจสอบเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว” 

 

ส่วนกรณีที่ต้นทุนวัตถุดิบที่นำเข้าอาจมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลให้ราคาหน้ากากอนามัยสูงเพิ่มตามไปด้วย ในส่วนนี้ อธิบดีกรมการค้าภายในยืนยันว่า “เรื่องนี้กรมการค้าภายในจะมีคณะกรรมการเพิ่มขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยอาจจะมีการชวนกระทรวงสาธารณสุข หรือสมาคมการแพทย์เข้ามาช่วยดูในส่วนนี้ ว่าราคาต้นทุนที่แท้จริงควรจะอยู่ที่เท่าไร ซึ่งถ้าราคาต้นทุนสูงขึ้นในอัตราที่ไม่มากนัก ทางรัฐบาลก็จะเข้าไปช่วยเพื่อให้โรงงานเหล่านี้ส่งสินค้าให้กับผู้ค้าปลีกได้ตามปกติ ซึ่งแต่ละกลุ่มอาจจะต้องมีการเบียดเสียดในเรื่องของส่วนต่างที่ 50 สตางค์พอสมควรเพื่อให้ราคานี้ยังอยู่ในตลาดได้”

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising