แม้ Johnny Depp จะเป็นดาราระดับ A-List ของฮอลลีวูด ซึ่งเขาสามารถทำเงินได้ 20 ล้านดอลลาร์ หรือราว 700 ล้านบาทต่อภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง แต่ระหว่างคำให้การในศาล เขาบอกว่าตัวเองสูญเสียความมั่งคั่งไปกว่า 650 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2 หมื่นล้านบาทในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา และเหลือเพียง 5 พันล้านบาทเท่านั้นในปี 2022
Johnny Depp โด่งดังสุดขีดจากการรับบท ‘กัปตันแจ็ก สแปร์โรว์’ จากภาพยนตร์แฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean ซึ่งว่ากันว่าเขาทำเงินได้ 300 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 หมื่นล้านบาท จากการแสดงภาพยนตร์แฟรนไชส์ 5 ภาค
กระนั้นเมื่อเขาโด่งดังขึ้น ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ตามมา Joel Mandel อดีตผู้จัดการธุรกิจของเขา กล่าวว่า Johnny Depp จ่ายเงินเดือนพนักงานส่วนบุคคลตั้งแต่ 1.25-2.5 แสนดอลลาร์ต่อปี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 หมื่นดอลลาร์ต่อวัน
ข่าวที่เกี่ยวต้อง:
- ในวันที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างทอดทิ้ง ‘Johnny Depp’ แต่ทำไม Dior ยังเป็นแบรนด์หรูที่อยู่เคียงข้างเขา
- พลังของแฟนคลับ! ระหว่างการพิจารณาคดีของ Johnny Depp ความต้องการน้ำหอม ‘Dior Sauvage’ เพิ่มขึ้นเกือบ 50%
- Pirates of the Caribbean เรื่องราวของกัปตันแจ็ก สแปรโรว์ โจรสลัดขี้เมาแห่งทะเลแคริบเบียนที่จะอยู่ในใจผู้ชมตลอดไป
กระนั้นด้วยไลฟ์สไตล์ที่แปลกประหลาดและค่าใช้จ่ายรายเดือนจำนวนมาก ทำให้เขาต้องใช้จ่ายเงินจำนวน 650 ล้านดอลลาร์ที่ไม่สามารถแจกแจงได้ในระหว่างปี 2003-2016
ตามข้อมูลของเว็บไซต์ Celebrity Net Worth ประเมินว่า มูลค่าสุทธิของ Johnny Depp ในปี 2022 อยู่ที่ 150 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5 พันล้านบาท
ล่าสุด Johnny Depp ชนะคดีฟ้องร้องอดีตภรรยา Amber Heard โทษฐานที่เธอหมิ่นประมาท (Defamation)โดยศาลสั่งให้ Amber Heard จ่ายค่าความเสียหายให้แก่อดีตสามีเป็นเงินจำนวน 10,350,000 ดอลลาร์ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังได้เงิน 2 ล้านดอลลาร์ ค่าฟ้องกลับเรื่องหมิ่นประมาท (Countersuit Defamation)
Forbes ประเมินว่า เงินดังกล่าวจะต้องถูกนำไปคำนวณภาษีเงินได้ ซึ่งการที่ Johnny Depp ต้องจ่ายเงินให้อดีตภรรยา 2 ล้านดอลลาร์ จะทำให้มีเงินได้มาคำนวณแค่ 8,350,000 ดอลลาร์ แต่จริงๆ แล้วจะต้องนำเงินทั้งหมดมาคำนวณ ซึ่งทั้งคู่ต้องจ่ายภาษีรัฐบาลกลาง 37% บวกภาษีของรัฐซึ่งแตกต่างกันไป แต่ในที่นี้เป็นแคลิฟอร์เนียนั่นคือ 13.3%
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้คือ Johnny Depp จะสามารถกลับมารุ่งโรจน์ในการเป็นนักแสดงระดับ A-List ของฮอลลีวูดได้อีกหรือไม่
รายงานของเว็บไซต์ Variety ก่อนหน้านี้ Johnny Depp มีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบ การมาสายในกองถ่าย แต่ในระหว่างการพิจารณาคดี เขานั้นมาถึงศาลตรงเวลาทุกวัน
“ฉันไม่รู้ว่าสิ่งนี้ช่วยเขาได้ในทางใดทางหนึ่ง” Gavin Polone ผู้อำนวยการสร้าง กล่าว “ผู้คนต้องเห็นว่าเขาน่าเชื่อถือและจะเข้ามาทำงานตรงเวลา”
Disney ไม่มีแผนที่จะรวม Johnny Depp ในภาพยนตร์แฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean ในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้ Jack Whigham ผู้ซึ่งเป็นเอเจนต์ของ Johnny Depp ภายใต้บริษัท Creative Artists Agency และ Range Media Partners ให้การว่า Johnny Depp ควรจะได้รับเงินทั้งหมด 22.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 775 ล้านบาท จากการแสดงภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean 6 แต่เขาถูกปลดออกเสียก่อน ขณะที่ Warner Bros ก็อาจเลิกแฟรนไชส์ Fantastic Beasts เนื่องจากรายได้ที่ลดลง
วันที่ 2 มิถุนายน วันรุ่งขึ้นหลังจากคำตัดสินของศาล Jeff Beck มือกีตาร์ ประกาศว่า Johnny Depp จะปรากฏตัวพร้อมกับเขาในอัลบั้มที่จะมาถึง แต่กระนั้นอดีตตัวแทนของเขาได้กล่าวในศาลว่า อาชีพนักดนตรีไม่ได้ทำเงินมากนัก แต่รายได้หลักมาจากภาพยนตร์จากสตูดิโอยักษ์ใหญ่ต่างหาก
ผู้บริหารสตูดิโอปฏิเสธที่จะพูดในที่สาธารณะเกี่ยวกับอนาคตของ Johnny Depp แต่พวกเขามองถึงความเป็นไปได้ที่ Johnny Depp จะสามารถแสดงในภาพยนตร์อิสระ
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ Johnny Depp จะใช้ประโยชน์จากความดังของเขาในการคว้าบทภาพยนตร์แอ็กชันที่มีทุนสร้างต่ำ หรือภาพยนตร์ที่ได้รับทุนจากการขายในต่างประเทศ เป็นต้น
แต่คำถามคือ เขาจะยังต้องการกลับมาทำงานหนักแบบนั้นอยู่หรือไม่?
ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images
อ้างอิง: