มีอะไรน่าจับตาในพิธีสาบานตนไบเดน ด้วยบริบทที่ต่างจากประธานาธิบดีคนก่อนๆ ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 และ คามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้

โดยพิธีสาบานตนครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 59 อาจแตกต่างจากพิธีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนอื่นๆ เนื่องด้วยสาเหตุ บริบท และปัจจัยที่ต่างกัน

ปรับรูปแบบรับโควิด-19
ไบเดนและแฮร์ริสจะขึ้นกล่าวคำปฏิญาณในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 20 มกราคม โดยพิธีสาบานตนจะเริ่มต้นด้วยการกล่าวสุนทรพจน์โดยบาทหลวง เลโอ เจ. โอ โดโนแวน อดีตประธานมหาวิทยาลัยจอร์จ ทาวน์ ผู้เป็นเพื่อนครอบครัวไบเดนมาอย่างยาวนาน

ความแตกต่างแรกของพิธีในครั้งนี้ เกิดจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน เช่นเดียวกับกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆ ในปีที่ผ่านมา

ซึ่งตามปกติแล้วในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีนักการเมืองและประชาชนหลักแสนถึงล้านคนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งต่ออำนาจของผู้นำสหรัฐฯ แต่วิกฤตโควิด-19 ทำให้ปีนี้มีนักการเมืองและเหล่าบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับเชิญ อาทิ เลดี้ กาก้า, เจนนิเฟอร์ โลเปซ ให้เข้าร่วมพิธีราว 2,000 คนเท่านั้น

ขณะที่พิธีสาบานตนจะเป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการและกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตลอด 5 วัน ซึ่งมีทั้งในรูปแบบออนไลน์และแบบเข้าร่วมงานด้วยตนเอง แต่เน้นการรักษาระยะห่าง อาทิ การจัดขบวนพาเหรดและกิจกรรมวันจิตอาสาแห่งชาติ (National Day of Service) ในวันที่ 18 มกราคม และการจัดพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วประเทศในวันที่ 19 มกราคม

นอกจากนี้ทางคณะกรรมการจัดพิธีสาบานตนของไบเดน จะติดตั้งธงชาติอเมริกา 200,000 อันทั่วบริเวณอุทยานเนชันแนลมอลล์ เพื่อแทนจำนวนของชาวอเมริกันที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมพิธีในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้

มุ่งผสานความปรองดอง
พิธีสาบานตนครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีมปรองดองอเมริกา (America United) และถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะเน้นย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการฟื้นตัวและจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือกันของชาวอเมริกัน

ขณะที่ไบเดนและแฮร์ริสจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อชาวอเมริกันทั้งประเทศ ซึ่งถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์และทางออนไลน์ในหัวข้อ ‘เฉลิมฉลองอเมริกา’ ซึ่งจะเริ่มต้นเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ทรัมป์ฉีกธรรมเนียมปฏิบัติ
ที่ผ่านมาในรอบกว่า 150 ปี แทบจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่กำลังจะพ้นตำแหน่งจะเข้าร่วมในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่

แต่ในครั้งนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจแหวกธรรมเนียม ด้วยการปฏิเสธเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดน จากการที่ทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและอ้างว่ามีการโกงเกิดขึ้น แต่ไบเดนไม่แยแสในเรื่องนี้ และยินดีที่ทรัมป์ไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้

เตรียมรับมือภัยคุกคาม หลังจลาจลรัฐสภา
เหตุการณ์ประท้วงจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งบานปลายจนกลายเป็นการจลาจลบุกเข้ายึดรัฐสภา (U.S. Capitol) ทำให้หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ รวมถึงสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI ต้องเตรียมความพร้อมในการคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยและเฝ้าระวังภัยคุกคามหรือการก่อเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงพิธีสาบานตน

โดยทีมถ่ายโอนอำนาจของไบเดนให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างยิ่ง ซึ่งพวกเขาได้รับข้อมูลสรุปสถานการณ์ความมั่นคงและการจัดเตรียมในด้านต่างๆ เป็นประจำทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าการสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดนและแฮร์ริสจะเป็นไปด้วยความราบรื่นไร้ปัญหา

ภาพ: Angela Weiss / AFP