×

Jim Thompson Art Center โฉมใหม่ ศูนย์รวมความรู้ภายใต้อาคารขนาด 3,000 ตารางเมตร

21.12.2021
  • LOADING...
Jim Thompson Art Center

ต้นเดือนธันวาคม 2564 หอศิลป์กลางเมือง Jim Thompson Art Center (JTAC) ได้กลับมาเปิดให้บริการภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ที่ไม่ได้เปลี่ยนไปแค่หน้าตาดีไซน์ แต่กลับมาบนพื้นที่ใช้สอยกว่า 3,000 ตารางเมตร และการจัดการโซนต่างๆ ทั้ง 4 ชั้นที่เตรียมไว้เพื่อนิทรรศการ กิจกรรมความรู้ เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมที่แพลนเอาไว้มากมายในอนาคต 

 

THE STANDARD POP ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้อำนวยการหอศิลป์ กฤติยา กาวีวงศ์ ถึงคอนเซปต์และพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ของตัวอาคาร รวมถึงได้เก็บภาพมาฝาก มาดูกันว่าแต่ละโซนของอาร์ตเซ็นเตอร์แห่งนี้จะมีอะไรกันบ้าง  

 

อิฐที่ถูกจัดวางคล้ายลวดลายและความพลิ้วไหวของผ้าไหม

 

ไล่เลียงมาจากหน้าทางเข้าของตัวหอศิลป์ ที่องค์ประกอบโดยรวมนั้นยังคงแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีโทนส้มของอิฐที่ให้ความคล้ายคลึงกับสีของบ้านทรงเรือนไทย มาพร้อมกับการจัดวางของตัวอิฐ และระแนงเหล็กที่ให้เท็กซ์เจอร์ ลวดลาย และความพลิ้วไหวคล้าย ‘ผ้าไหม’ อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของจิม ทอมป์สัน ที่ผสมผสานการออกแบบแบบร่วมสมัยไปกับผนัง และพื้นสัมผัสปูนเปลือยโดยรอบด้วยเช่นกัน

 

โดยในจุดทางเข้าของ JTAC มีลานจอดรถอัตโนมัติ (Automatic Parking) ให้บริการสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมหอศิลป์ด้วยการเดินทางแบบรถส่วนตัวอีกด้วย

 

ชั้น 1 โซนร้านกาแฟ และร้านขายสินค้า Merchandise

 

เมื่อเดินขึ้นบันไดมาในชั้นแรกจะพบกับโซนร้านกาแฟ โซนที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจในจุดแรก และร้านขายสินค้า Merchandise ที่ทาง JTAC ร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายผลงานศิลปะให้กับเหล่านักสะสมในราคาย่อมเยา อย่าง Mass Art Project (MAP) หรือโปรเจกต์ที่เปิดรับซื้อโปรดักต์จากหลากหลายศิลปินสมัครเล่น และมืออาชีพให้ได้ร่วมแสดงฝีมือผ่านออกมาทางผลงาน หรือสินค้าได้อย่างเต็มที่ โดยภายในร้านค้า ประกอบไปด้วยสินค้าจำพวก เสื้อยืด, กระเป๋าผ้า, สมุดโน้ต, โปสการ์ด, โปสเตอร์ และหนังสือ ให้ได้เลือกแวะชม

 

 

หลังจากที่แวะดื่มกาแฟ และชมสินค้ากันไปในชั้นแรก ถัดขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งจะพบกับโถงอาคารกลางแจ้งที่มีพื้นที่โล่งโปร่งสบาย ให้ผู้ที่มาแวะเวียนนั้นได้สัมผัสกับบรรยากาศภายนอกบ้าง ก่อนที่จะเข้าไปยังโซนอินดอร์ต่างๆ ของอาคาร ทั้งในชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งโถงอาคารตรงนี้ก็ยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมระหว่างโซนห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรนแห่งใหม่ และโซนห้องประชุมอเนกประสงค์ด้วย

 

บันไดทางขึ้นชั้น 2 

 

ห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรน (William Warren Library) 

 

โซนชมภาพยนตร์ที่แพลนว่าจะมีขึ้นในอนาคต

 

ถัดเข้ามายังโซนห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรนแห่งใหม่ (William Warren Library) หรือโซนทางด้านขวาของโถงอาคาร ภายในห้องสมุดนั้นจะพบกับโซนต่างๆ ที่ถูกจัดแบ่งออกเป็นโซนที่แบ่งตามหมวดหมู่ของหนังสือ และจุดอ่านหนังสือต่างๆ ทั้งแบบเป็นโต๊ะ-เก้าอี้ หรืออ่านหนังสือสบายๆ บนโซฟา พร้อมหมอนอิงแบบแถวยาวให้เลือกได้ตามใจชอบทั่วทุกพื้นที่ของห้องสมุด ซึ่งในอนาคตทาง JTAC มีแพลนที่จะทำโซนชมภาพยนตร์ โดยจะให้บริการทั้งทีวี และโซฟาเพิ่มเติมขึ้นมาอีกด้วย

 

สำหรับการเข้าชมห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรนนั้น ผู้เข้าชมสามารถเข้ามาใช้บริการอ่านหนังสือได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในกรณีที่อยากจะยืมหนังสือ ผู้เข้าชมจะต้องสมัครสมาชิก JTAC ก่อน โดยมีค่าสมัครสมาชิกสำหรับผู้ใหญ่ 1,200 บาทต่อปี และในส่วนของนักเรียน นักศึกษาอยู่ที่ 600 บาทต่อปี

 

พื้นที่ภายในห้องประชุมอเนกประสงค์

 

 

มาต่อกันที่โซนทางด้านซ้ายของโถงอาคารกันบ้าง อย่างห้องประชุมอเนกประสงค์ หรือเวิร์กกิ้งสเปซที่ทาง JTAC จัดขึ้นเพื่อใช้อำนวยความสะดวกให้แก่ศิลปิน บริษัท และบุคคลทั่วไปได้มาใช้พื้นที่ตรงนี้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนา หรือการจัดประชุม ไปจนถึงการจัดเวิร์กช็อป โดยจะมีรายละเอียดสำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้าใช้พื้นที่แห่งนี้เพิ่มเติมตามเงื่อนไขของทาง JTAC

 

 

หลังจากที่พาชมโซนต่างๆ ของชั้น 2 เป็นที่เรียบร้อย เราจะเห็นได้ว่าตัวอาคารนั้นมีการหยิบใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่าง ‘ไม้’ เพิ่มเติมขึ้นมาจากการใช้อิฐ และเหล็กที่เป็นองค์ประกอบหลักของอาคาร โดยทาง JTAC ตั้งใจให้วัสดุทั้ง 3 อย่างนี้เป็นตัวแทนของเอกลักษณ์ และความร่วมสมัยที่มีที่มาจากส่วนผสมของทั้งธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น

 

         
 

และสำหรับใครที่ตั้งใจจะมาชมนิทรรศการศิลปะที่ถูกจัดขึ้นโดย JTAC โดยเฉพาะนั้น สามารถขึ้นมาชมได้เลยทันทีที่โซนห้องจัดแสดงนิทรรศการ หรือแกลเลอรี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณชั้น 3 ของ JTAC ซึ่งจะมีค่าบริการในการเข้าชมคนละ 50 บาทสำหรับผู้ใหญ่

 

 

โดยโซนจัดแสดงนิทรรศการแห่งนี้ จะมีห้องแกลเลอรีจำนวน 2 ห้อง รองรับการจัดนิทรรศการของทั้งศิลปินเดี่ยวและกลุ่ม ไปจนถึงการจัดนิทรรศการในหลากหลายหัวข้อ ทั้งในโซนห้องเดียวกัน หรือการจัดแสดงแบบเชื่อมโยงภายใต้นิทรรศการหนึ่งหัวข้อ โดยใช้ทั้ง 2 ห้องเลยก็ได้  

 

ห้องแกลเลอรี 1 กับนิทรรศการศิลปะ ‘Future Tense’

 

ห้องแกลเลอรี 1 ปัจจุบันจัดแสดงนิทรรศการศิลปะภายใต้หัวข้อ Future Tense หรือ นิทรรศการศิลปะจากศิลปินกว่า 14 ชีวิต ที่ร่วมถ่ายทอดและแสดงให้เห็นถึงผลพวงอันเนื่องมาจากสงครามเย็น ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกวันนี้ โดยนิทรรศการนี้สามารถเข้าชมได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565  

 

และเนื่องจากนิทรรศการนี้มีการจัดแสดงรูปแบบผลงานศิลปะที่หลากหลาย ทั้งผลงานแบบวิดีโอ ภาพวาด และผลงานศิลปะแบบจัดวาง จึงทำให้ภายในห้องของแกลเลอรีนั้นต้องการความสว่างที่พอดี ซึ่งในขณะเดียวกันทาง JTAC ก็มีความประสงค์ที่อยากเปิดช่องระหว่างเพดานห้องให้มีแสงธรรมชาติได้ลอดส่องเข้ามา สำหรับนิทรรศการในอนาคตที่ไม่จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากหลอดไฟช่วยด้วยเช่นกัน

 

ห้องแกลเลอรี 2 กับนิทรรศการศิลปะ ‘Future Tense’                  

 

 

ห้องแกลเลอรี 2 กำลังจัดนิทรรศการต่อเนื่อง Future Tense ด้วยเช่นกัน ภายในอาจจะเล็กกว่าแกลเลอรี 1 เล็กน้อย แต่ยังสามารถจัดแสดงนิทรรศการศิลปะในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งภาพวาดหรือวิดีโออินสตอลเลชันได้เช่นกัน

 

วิวสวยบนดาดฟ้า

 

 

มาถึงกันที่ชั้นสุดท้าย หรือชั้น 4 อีกหนึ่งจุดไฮไลต์สำคัญที่ทาง JTAC พร้อมนำเสนอ เพราะนี่คือสวนบนดาดฟ้าที่จะให้บริการแก่ชุมชนศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยทาง JTAC มีแพลนที่จะทำเป็นสวนจัดนิทรรศการศิลปะในรูปแบบประติมากรรม หรือรูปปั้น (Sculpture Garden) รวมไปถึงโซนบาร์บีคิวที่จะมีให้บริการแก่ผู้ที่มาเข้าชม นักท่องเที่ยว และผู้คนในชุมชนได้ดื่มด่ำกับศิลปะท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นได้ทั้งตัวบ้านเรือนไทยของจิม ทอมป์สันเฮ้าส์ ชุมชนโดยรอบ และวัฒนธรรมที่หลากหลายได้จากตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็น มัสยิด โบสถ์ และวัด ที่ตั้งล้อมรอบสถานที่แห่งนี้อีกด้วย

 

วิวสวยจากดาดฟ้า

 

Jim Thompson Art Center

Open: ทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร, ห้องสมุดปิดวันจันทร์ และอังคาร) เวลา 10.00-18.00 น. 

Address: ซอยเกษมสันต์ 2 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน

Web: https://web.facebook.com/jimthompsonartcenter

Map: 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising