×

ทีมสืบสวนเผย มีการส่งเครื่องประดับยุคอังกอร์ที่พบในกรุงลอนดอนคืนให้กัมพูชาแล้ว

21.02.2023
  • LOADING...
เครื่องประดับยุคอังกอร์

ทีมสืบสวนเผยว่า ทรัพย์สมบัติเครื่องประดับยุคอังกอร์ของกัมพูชาที่พบอีกครั้งในกรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2022 ได้รับการส่งกลับไปยังกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชาอย่างลับๆ แล้ว และเตรียมจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเร็วๆ นี้

 

โดยสมบัติดังกล่าวเคยอยู่ในการครอบครองของ ดักลาส แลตช์ฟอร์ด นักลักลอบค้าโบราณวัตถุชาวอังกฤษที่เสียชีวิตลงเมื่อปี 2020 ระหว่างรอการพิจารณาคดีในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางครอบครัวของเขาได้สัญญาว่า จะส่งคืนสิ่งของที่ถูกขโมยกลับไปยังกัมพูชา หลังจากที่แลตช์ฟอร์ดเสียชีวิตลง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดของการส่งมอบคืนแต่อย่างใด

 

แบรด กอร์ดอน หัวหน้าทีมสืบสวนของกัมพูชาเป็นผู้แทนคนแรกของประเทศที่ได้เห็นเครื่องประดับเหล่านั้น ขณะที่เขาเดินทางไปเยือนกรุงลอนดอนเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว โดยกอร์ดอนให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า ตัวแทนของครอบครัวแลตช์ฟอร์ดได้พาเขาไปยังลานจอดรถ ซึ่งท้ายรถมีกล่องสี่ใบอยู่ข้างใน ภายในกล่องประกอบไปด้วยทองคำ เครื่องประดับและอัญมณีต่างๆ รวมทั้งสิ้น 77 ชิ้น ซึ่งรวมถึงมงกุฎ เข็มขัด และต่างหู 

 

กอร์ดอนเชื่อว่า ชามใบใหญ่ที่อยู่ในกล่องใบหนึ่งนั้นอาจมีอายุราวศตวรรษที่ 11 และถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับการตรวจสอบ แต่กอร์ดอนก็สันนิษฐานว่า ชามใบดังกล่าวนั้นทำมาจากทองคำแท้และใช้เป็นชามข้าวสำหรับสมาชิกราชวงศ์อังกอร์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญที่ได้เห็นทรัพย์สมบัติดังกล่าวในเวลาต่อมายังเชื่ออีกว่า หนึ่งในมงกุฎภายในกล่องนั้นดูเหมือนว่ามาจากยุคก่อนอังกอร์ และอาจทำขึ้นโดยช่างฝีมือในช่วงศตวรรษที่ 7 

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดชัดเจนได้ว่าเครื่องประดับเหล่านี้ถูกขโมยไปเมื่อไรและด้วยวิธีการใด รวมถึงเครื่องประดับทั้งหมดถูกส่งกลับมาที่กรุงลอนดอนได้อย่างไร โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงลอนดอนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตามหาผู้สมรู้ร่วมคิดของแลตช์ฟอร์ด ด้วยเหตุที่ว่าการระบุผู้ต้องหาก่อนเริ่มการสอบสวนนั้นจะต้องตั้งข้อหาในความผิดทางอาญาก่อน

 

โดยชาวกัมพูชาต้องการทรัพย์สมบัติของประเทศที่ถูกปล้นไปทั้งหมดกลับคืน หลังจากถูกซ่อนไว้ในกล่องเป็นเวลานานหลายทศวรรษ และอีกไม่นานเครื่องประดับเหล่านี้จะได้รับการจัดแสดงต่อสาธารณชนที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงพนมเปญ เพื่อให้ทุกคนได้ยลโฉมความงดงามกันอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

 

ภาพ: Tang Chinn Sothy / AFP

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising