×

ซีอีโอ Suntory เตือน เงินเยนมีโอกาสอ่อนค่าแตะระดับ 170 เยนต่อดอลลาร์ หาก BOJ ยังเดินหน้าใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย

08.09.2023
  • LOADING...
Suntory

ทาเคชิ นินามิ ซีอีโอของ Suntory Holdings บริษัทผู้ผลิตแอลกอฮอล์ชื่อดังของญี่ปุ่น ออกมาคาดการณ์ว่า เงินเยนมีโอกาสอ่อนค่าไปแตะระดับ 170 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เงินเยนเคยอยู่ที่ระดับดังกล่าวคือเมื่อ 37 ปีก่อน หากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่อไป

 

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เงินเยนได้อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว 11% ซึ่งถือเป็นสกุลเงินที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดในกลุ่ม 10 สกุลเงินหลักของโลก ล่าสุดในสัปดาห์นี้เงินเยนได้อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 147.50 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 เดือน โดย JPMorgan Chase & Co ประเมินว่า เงินเยนมีโอกาสอ่อนค่าไปสู่ระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์ในปีหน้า

 

การอ่อนค่าของเงินเยนมีสาเหตุมาจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษของ BOJ ที่กดดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำ พร้อมกับล็อกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย (Yield Curve Control) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและคุมต้นทุนการกู้ยืมไม่ให้สูงเกินไป โดย BOJ มีเป้าหมายที่จะนำญี่ปุ่นออกจากภาวะเงินฝืดที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ

 

การยืนกรานใช้นโยบายการเงินที่สวนทางกับธนาคารหลักในหลายประเทศ ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของญี่ปุ่นกับประเทศอื่นๆ ถ่างกว้างขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้เกิดภาวะเงินไหลออก ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง 

 

เพื่อชะลอการอ่อนค่าที่รวดเร็วของเงินเยนและลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่มีต่อภาคครัวเรือนจากราคาสินค้านำเข้าที่แพงขึ้น ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา BOJ ได้ตัดสินใจเพิ่มความยืดหยุ่นของกรอบความเคลื่อนไหวของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ขึ้นจาก ±0.5% เป็น +1.0% แต่ดูเหมือนว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร

 

แม้ว่าปัจจุบันเงินเฟ้อในญี่ปุ่นจะปรับสูงขึ้นแล้ว แต่ คาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ยังคงส่งยืนยันจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อ จนกว่าจะเห็นสัญญาณการเติบโตของเงินเฟ้อที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนว่าญี่ปุ่นได้หลุดออกจากภาวะเงินฝืดแล้วเท่านั้น

 

เงินเยนที่อ่อนค่าได้ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของภาคธุรกิจญี่ปุ่นหลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทที่มีสัดส่วนการนำเข้าวัตถุจากต่างประเทศสูง แต่ในอีกมุมหนึ่ง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ช่วยให้บริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศในสัดส่วนสูง มีผลประกอบการที่สูงขึ้น

 

“ฉากทัศน์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนจากภาวะเงินฝืดไปเป็นเงินเฟ้อ ในช่วงที่เรากำลังเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อ ภาคธุรกิจจำเป็นต้องเร่งลงทุนก่อนที่เงินจะมีค่าน้อยลง ผมคิดว่าบริษัทญี่ปุ่นควรออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเซ็กเตอร์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีคือ ดิจิทัล สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม” นินามิกล่าว

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising