×

ญี่ปุ่นเพิ่มงบกลาโหมสองเท่า-ไฟเขียวเปิดทางซื้ออาวุธพิสัยไกล เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น

โดย THE STANDARD TEAM
17.12.2022
  • LOADING...
ญี่ปุ่นเพิ่มงบกลาโหม

วานนี้ (16 ธันวาคม) ญี่ปุ่นได้เปิดเผยแผนความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่ส่งสัญญาณถึงการเสริมสร้างกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นสองเท่า ท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งในภูมิภาค 

 

ในคำปราศรัยทางโทรทัศน์ช่วงหัวค่ำที่กรุงโตเกียว นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวว่า รัฐบาลได้อนุมัติเอกสารด้านความมั่นคง 3 ฉบับ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ (NSS) ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศแห่งชาติ และแผนพัฒนากองกำลังป้องกันประเทศ เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ 

 

มาตรการใหม่ดังกล่าวรวมถึงการเปิดทางให้ญี่ปุ่นสามารถตอบโต้สวนกลับ สามารถโจมตีดินแดนของประเทศอื่นโดยตรงในกรณีฉุกเฉินและภายใต้สถานการณ์เฉพาะ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่นใช้กำลังทหารในความขัดแย้งระหว่างประเทศ และจำกัดระดับการป้องกันตนเองด้านกลาโหม โดยกำหนดให้กองกำลังป้องกันตนเองปกป้องมาตุภูมิของญี่ปุ่นเป็นสำคัญ

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันโตเกียวกำลังเผชิญกับสถานการณ์ความมั่นคงที่ไม่น่าไว้วางใจที่สุดในรอบหลายทศวรรษจากบรรดาประเทศคู่แข่ง โดยญี่ปุ่นเรียกหนึ่งในคู่แข่งเหล่านั้น ซึ่งก็คือจีน ว่าเป็นความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องยกเครื่องด้านกลาโหม

 

จีน ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของญี่ปุ่น ได้เพิ่มกองกำลังทางเรือและทางอากาศบริเวณพื้นที่ใกล้กับญี่ปุ่น ขณะที่อ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเซ็งกากุว่าเป็นอาณาเขตอธิปไตยของตนเอง โดยหมู่เกาะเซ็งกากุเป็นหมู่เกาะร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ในทะเลญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่าทะเลตะวันออก และอยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น ขณะที่จีนเรียกเกาะดังกล่าวว่า เตียวหยู

 

นอกจากนี้การที่จีนเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อไต้หวัน ก็ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยเมื่อเดือนสิงหาคม ปักกิ่งยิงขีปนาวุธ 5 ลูกตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นใกล้กับไต้หวัน เพื่อตอบโต้การเยือนไทเปของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ

 

ขณะเดียวกัน นอกจากจีนแล้ว ทางทิศตะวันตก ญี่ปุ่นยังต้องจับตาการสร้างคลังแสงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือด้วย โดยเปียงยางได้ทดสอบขีปนาวุธ 34 ครั้งในปีนี้ รวมถึงเมื่อเดือนตุลาคมที่มีการยิงขีปนาวุธเหนือญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ซึ่งคิชิดะเรียกการกระทำนี้ว่า ‘อุกอาจ’

 

ส่วนทางตอนเหนือของญี่ปุ่น รัสเซียได้สั่งสมกองกำลังบนเกาะที่อยู่ติดกับชายแดนญี่ปุ่นนับตั้งแต่เริ่มสงครามในยูเครน ซึ่งเพิ่มความหวาดกลัวให้กับโตเกียวว่า อาจต้องปกป้องดินแดนของตนเองจากภัยคุกคามรอบด้านที่เข้ามาพร้อมกัน

 

แม้ว่าญี่ปุ่นจะได้รับการยกย่องว่ามีกองกำลังที่ทันสมัยและทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่อาวุธของญี่ปุ่นนั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อโจมตีศัตรูที่เข้ามาใกล้เท่านั้น แต่ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศฉบับใหม่จะเปิดทางให้ญี่ปุ่นมีอาวุธประเภทอื่นๆ ได้ เช่น ขีปนาวุธโทมาฮอว์กที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายซึ่งเป็นไปได้ว่าศัตรูอย่างจีน เกาหลีเหนือ หรือรัสเซีย อาจใช้เป็นฐานในการโจมตีญี่ปุ่น

 

เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นกล่าวว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธในปัจจุบันของญี่ปุ่นสามารถโจมตีเป้าหมายที่เข้ามาได้ก็ต่อเมื่อเข้ามาในระยะประมาณ 50 กิโลเมตร ขณะที่จีนมีขีปนาวุธที่สามารถยิงได้จากเครื่องบินรบหลากหลายประเภทจากระยะไกลถึง 300 กิโลเมตร

 

อย่างไรก็ดี ในการวางแผนเพิ่มอาวุธพิสัยไกลนั้น โตเกียวยืนยันว่าจะไม่ใช้เพื่อเปิดฉากโจมตีก่อน แต่จะใช้เฉพาะเมื่อศัตรูโจมตีญี่ปุ่นก่อนเท่านั้น

 

ภาพ: Issei Kato / Pool/Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising