เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ส่งจดหมายถึงบรรดาผู้นำในสภาคองเกรสเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 มกราคม) โดยระบุว่าทางกระทรวงการคลังฯ กำลังระงับการลงทุนซ้ำของพันธบัตรรัฐบาลกลางบางส่วนในแผนการออมทรัพย์ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการเพิ่มเติม ‘พิเศษ’ เพื่อซื้อเวลาให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสภาคองเกรส ได้เจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาความสามารถในการกู้ยืมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 มกราคม) ทำให้กระทรวงการคลังจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนทางบัญชีเกี่ยวกับการเกษียณอายุของพนักงานของรัฐบาลกลาง และแผนการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถให้บริการได้จนถึงประมาณเดือนมิถุนายนนี้
นอกจากนี้ ภายใต้มาตรการพิเศษ เพื่อช่วยให้รัฐบาลมีเงินใช้จ่ายเพียงพอจนกว่าจะถึงกำหนดที่สามารถบรรลุข้อตกลงการขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ
เยลเลนระบุในจดหมายว่า ทางกระทรวงการคลังยังกำหนดด้วยว่ารัฐบาล “จะไม่สามารถลงทุนได้อย่างเต็มที่” ในหลักทรัพย์ของรัฐบาลในส่วนของกองทุนออมแบบประหยัดในระบบการเกษียณอายุของพนักงานของรัฐบาลกลาง โดยเยลเลนย้ำว่า มาตรการพิเศษที่นำมาใช้ล้วนเป็นมาตรการที่รัฐมนตรีคลังในอดีตเคยปฏิบัติมาก่อนแล้วทั้งสิ้น ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้บัญชี “จะถูกทำให้สมบูรณ์เมื่อวงเงินหนี้เพิ่มขึ้นหรือถูกระงับ”
ขณะนี้ คำถามที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างพากันกังวลอย่างมากก็คือ วิธีที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถพบจุดร่วมกันบนข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้ผ่านสภาคองเกรสได้อย่างราบรื่น เพราะทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรครีพับลิกันอย่างแมคคาร์ธี ต่างมีจุดยืนและเงื่อนไขที่แตกต่างกันอย่างมากในขยายเพดานหนี้ โดยเฉพาะแมคคาร์ธีที่ยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลต้องมีแผนตัดลดรายจ่าย เช่น สวัสดิการบางส่วน เพื่อรักษาวินัยทางการคลังและป้องกันระดับหนี้ ไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลที่อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซีอีโอ JPMorgan เตือน เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 6-9 เดือน
- หุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปิดบวกถึง 800 จุด จากที่ร่วงหนักกว่า 500 จุด หลังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย.
- สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ที่ 8.2% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งทันที!
อ้างอิง: