การจิบไวน์ที่บ้านคนเดียวก็เป็นความสุขอีกแบบ ที่ได้ดื่มด่ำรสชาตินานับ รับกลิ่นสารพัดจากในแก้วเล็กๆ สักใบ จินตนาการไปไกลว่าอยู่ท่ามกลางสวนองุ่นสีเขียวอันแสนสุขทันทีที่จิบ แต่คงจะดีขึ้นไม่น้อยหากได้แชร์ประสบการณ์นี้กับคนที่ตรงดิ่งมาชิมไวน์กับคุณจากทั่วโลก ณ ไร่องุ่นแสนสวยตอนใต้ของออสเตรเลียในอุณหภูมิเย็นๆ ที่จะชวนจิบไวน์ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!
งานที่เราเกริ่นถึงข้างบนมีชื่อว่า ‘Our Table’ หรือแปลง่ายๆ ว่า ‘โต๊ะของเรา’ หาใช่ว่าเราจะตะโกนจองโต๊ะให้เพื่อนที่ไหนหรอกนะ แต่นี่เป็นงานที่จัดขึ้นโดยเจค็อบส์ ครีก (Jacob’s Creek) ไวน์ดังจากออสเตรเลียที่พาบรรณาธิการ นักข่าว บล็อกเกอร์ และอินฟลูเอ็นเซอร์ จากทั่วโลกตรงดิ่งมาร่วมรับประทานอาหารโต๊ะยาวพร้อมๆ กัน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์กินดื่มที่ภาษาหาใช่อุปสรรค เพราะทุกคนสามารถเชื่อมต่อกันได้ผ่านอาหารและไวน์ดีๆ สักแก้ว (หรือหลายๆ แก้วก็ไม่ว่ากัน…)
แดดจัดจ้าและบรรยากาศดีๆ ที่ไร่องุ่น
งาน (อัศวิน) โต๊ะยาวนี้จัดขึ้นที่บารอสซ่า วัลเล่ย์ (Barossa Valley) ในเมืองแอดิเลด (Adelaide) เมืองหลวงสีเขียวอันยิ่งใหญ่ของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย สถานที่ที่แม้กระทั่งพนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังรู้แกมถามว่า
“คุณจะไปจิบไวน์ล่ะสิ?”
ถูกต้องแล้ว ดินเนอร์ครั้งนี้เราแต่งองค์ทรงเครื่องมุ่งสู่บ้านของ Jacob’s Creek สู่สถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวย้อนไปถึงปี 1847 บนลำธารของเจค็อบ หรือ Jacob’s Creek อันเป็นสถานที่ที่ชายที่ชื่อโยฮาน กรัมป์ (Johan Gramp) ปลูกไร่ไวน์ไร่แรกขึ้นบนผืนดินของแอดิเลดอันขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นที่มีภูมิอากาศเย็นที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย จนมาถึงความภาคภูมิใจทุกวันนี้ของคนในแถบนี้ที่ได้ผลิตไวน์อร่อยๆ ระดับโลกจากองุ่นหลากชนิดที่เติบโตบนผืนดินและแสงแดดจัดจ้าของแดนจิงโจ้แห่งนี้
บรรยากาศภายใน Jacob’s Creek Visitor Centre
เราเดินทางเข้าร่วมรับประทานอาหารกับคนแปลกหน้าอีก 10 ประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อเมริกา โปแลนด์ อินเดีย อังกฤษ ฯลฯ ซึ่งมื้อพิเศษนี้จัดขึ้น ณ Jacob’s Creek Visitor Centre ท่ามกลางไร่องุ่นสีเขียวนานาพันธุ์ที่ใบกำลังโบกสะบัดรับสายลมและแสงแดดตอนปลายของฤดูร้อนคอยต้อนรับอาคันตุกะจากนานาประเทศ
Cheers!
ทีมงานของ Jacob’s Creek เสนอไวน์โรเซเย็นฉ่ำพร้อมกับรอยยิ้มต้อนรับทันทีที่เท้าของเราแตะถึงพื้น ทางเดินไปบริเวณที่รับประทานอาหารน่าตื่นตาด้วยต้นองุ่นนานาชนิดให้ผู้อยากรู้ได้หยุดทำความรู้จักอย่างพันธุ์เกรอนาช (Grenache) ที่มักเติบโตในพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่น ทำให้รสชาติของผลไม้อย่างสตรอเบอร์รีและราสป์เบอร์รี มีกลิ่นของดอกไวโอเล็ตและเครื่องเทศผสมอยู่ด้วย เป็นต้น
โต๊ะดินเนอร์พร้อมต้อนรับแขกเหรื่อของค่ำคืนพิเศษนี้แล้ว
โต๊ะอาหารทำจากไม้ยูคาลิปตัสขนาดเขื่องของเราทอดตัวยาวกลางแสงแดดอ่อนๆ ท่ามกลางอุณหภูมิ 21 องศาเซลเซียส ตั้งอยู่ไม่ไกลต้นยูคาลิปตัสต้นขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านเด่นสง่าอันเป็นต้นไม้ประจำของถิ่นนี้ในออสเตรเลีย และเราค้นพบว่านี่คือถิ่นอาศัยของเจ้าโคอาล่าที่ชอบเคี้ยวใบยูคาลิปตัสนี่เอง
Our Table
Our Table คือคอนเซปต์การนำผู้คนที่มีพื้นฐานแตกต่างและหลากหลายมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ผ่านอาหารและไวน์ และนี่ไม่ใช่ไวน์ดินเนอร์อันหรูหราที่เรามักนึกถึงตามภัตตาคาร รอบตัวหาได้มีแชนเดอเลียร์ ฐานตั้งเทียนไข หรือสร้อยเพชรระยับให้ได้เห็น แต่แทนที่ด้วยเสียงเพลงคลอเบาๆ จากนักดนตรีท้องถิ่นที่ใส่แจ็กเก็ตกันลมบรรเลงเพลงคลาสสิกร็อกผ่านกีตาร์ด้วยปลายนิ้วที่ฟังแล้วเสนาะหูแบบที่ดนตรีแจ๊ซที่มักเปิดในดินเนอร์มื้อพิเศษเองก็ทำไม่ได้ และเขากำลังบรรเลงเพลง Fast Car ของเทรซี แชปแมน (Tracy Chapman) ที่เรียกเสียงปรบมือเป็นพิเศษจากเหล่าชาวต่างชาติที่บังเอิญมีหัวใจดนตรีตรงกันได้ฟัง
อากาศดีๆ แบบนี้ ทุกคนยิ่งกว่าเต็มใจชวนกันมานั่งรับประทานอาหารด้านนอก
Our Table ยังตอกย้ำถึงความอบอุ่นของการได้แบ่งปันบทสนทนา ความคิด การทำความรู้จักกัน ที่แม้จะแบ่งแยกกันด้วยพื้นเพภาษาและวัฒนธรรม ก็สามารถเชื่อมโยงหากันได้ผ่านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเมนูอาหาร 4 คอร์สหลักๆ ที่เชฟนิค ทัคเกอร์ (Nik Tucker) ที่นำมาเสิร์ฟสำหรับมื้อพิเศษนี้ก็มีคอนเซปต์และเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ขณะที่คุณเบน ไบรอันต์ (Ben Bryant) ชีฟไวน์เมกเกอร์ของ Jacob’s Creek เป็นหัวเรือในการเลือกไวน์ที่จะทำให้ค่ำคืนนี้ยิ่งน่าจดจำยิ่งขึ้นไปอีก
หนิงชางกับเมนูไส้หรอกสไตล์จีน
เมนูที่น่าสนใจคือ Xiangchang ของหนิงชาง (Ning Chang) นักแสดงสาวชาวจีนที่เลือกเมนูในใจของเธอมาแบ่งปันในอาหารมื้อนี้ โดยบอกเล่าถึงเรื่องราวสมัยเด็กที่คุณแม่ของเธอมักห้ามลูกๆ ไม่ให้กินอาหารจากรถเข็นริมทางแม้จะเป็นวัฒนธรรมการกินที่นิยมของชาวจีน เนื่องด้วยห่วงเรื่องสุขอนามัยของลูกสาวทั้ง 2 แต่เธอและพี่สาวกลับชอบแอบไปซื้อมาแบ่งกันจนแม่จับได้ แต่ทันทีที่แม่ได้ลองชิม Xiangchang ซึ่งเป็นไส้กรอกเครื่องเทศแบบจีนรสชาติละม้ายคล้ายกุนเชียง เธอก็เปลี่ยนใจเป็นคนสรรหามาให้ลูกๆ ได้กินเสียเอง อันเป็นที่มาของอาหารจานโปรดที่เชื่อมโยงเธอและพี่สาวเข้ากับผู้เป็นแม่ แพริ่งกับไวน์ขาวซิกเนเจอร์ชาร์ดอนเนย์ปี 2016 (Basorra Signature Chardonnay) ที่เข้ากับความหวานอมเค็มและรสจัดจากเครื่องเทศของไส้กรอกโดยเสริมให้รสสดชื่นขึ้น
กิ๊บซี่บอกเล่าเรื่องราวสนุกๆ ที่ลอนดอนของเธอ
ส่วนอีกจานที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Roast Turkey เมนูเก่งของ กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์ นักแสดงสาวชาวไทยที่รักและสนใจเรื่องอาหาร และยังเป็นผู้ชนะรายการ Iron Chef Celebrity โดยไก่งวงอบของกิ๊บซี่จานนี้เป็นตัวแทนเรื่องราวของค่ำคืนแสนสุขคืนหนึ่งในกรุงลอนดอน ที่เพื่อนๆ ของเธอรู้สึกหิวจากการไปย่ำราตรี แต่สิ่งเดียวที่มีอยู่ในตู้เย็นกลับเป็นไก่งวง ซึ่งเธอลองจับพลัดจับผลูนำมาปรุงเป็นอาหารเมนูที่ไม่เคยลองทำมาก่อน จนกลายเป็นจานเด็ดมัดใจโดยไม่ตั้งใจที่เป็นหนึ่งในเมนูใรดวงใจของเธอไปโดยปริยาย
เมนูไก่งวงของทีมไทยอร่อยไม่แพ้ชาติอื่นๆ เลย
ความพิเศษของไก่งวงจานนี้ นอกเหนือจากเนื้อนุ่มชุ่มซอสและมันฝรั่งบดที่จับคู่กับไวน์แดงอย่างซิกเนเจอร์ชีราซ (Barossa Signature Shiraz) ปี 2016 ที่เติบโตและผลิตในท้องถิ่นที่เรากำลังนั่งรับประทานอาหารกันแล้ว ยังน่าสนใจตรงที่อาหารจานเคียงถูกนำมาเสิร์ฟไว้ตรงกลาง เชื้อชวนเป็นนัยให้ทุกคนได้หยิบยก ตักใส่จานแก่กัน จนเกิดเป็นเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ราบรื่นยิ่งขึ้นด้วยอิทธิพลของไวน์ที่เริ่มทำหน้าที่ของมันในการผสานคนให้พูดคุยกัน
เหล่าอินสตาแกรมเมอร์และเอดิเตอร์กำลังแชร์ภาพโต๊ะแสนสวยบนโซเชียลมีเดีย
นอกเหนือจากนั้นยังมีเมนูปลาแซลมอนรสอร่อยอย่าง Gravlax จากสเตฟานี เครเมอร์ (Stephanie Kramer) บล็อกเกอร์ด้านโภชนาการจากออสเตรเลียที่จับคู่ได้อย่างน่าสนใจกับรีสลิง (Barossa Signature Riesling) จากปี 2017 ที่ให้รสสะอาดหมดจด แต่กลับชูรสของปลาแซลมอนสดๆ ให้โดดเด่นโดยไม่โดนซอสผักชีลาวกลบได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไปจนเมนูขนมหวานอย่าง Plum Crumble จากช่างภาพชาวอินเดีย นายันธารา ปาริกห์ (Nayantara Parikh) ที่ชวนประหลาดใจด้วยการฉีกกฎเดิมๆ ของการเสิร์ฟไวน์รสหวานอย่างมอสกาโต (Moscato) ควบคู่ แต่กลับนำไปจับคู่กับไวน์แดงคาเบอร์เนต (Barossa Signature Cabernet) ปี 2016 ที่ออกรสหวานเบาๆ และช่างพอดีกับช่วงเวลาดื่มด่ำอาหารยามค่ำคืนที่อุณหภูมิหดลงเหลือเพียง 12 องศา ใต้ดาวเต็มฟ้า ท่ามกลางสายลมบริสุทธิ์เย็นๆ ที่ทุกคนกำลังจินตนาการถึงอะไรอุ่นๆ มารองท้องให้ส่งกลับถึงที่พักอย่างอิ่มอกอุ่นใจ
วันดีๆ หนึ่งวันใต้ดาวพร่างฟ้าบนโต๊ะไม้ยาวในไร่องุ่น
ตลอดเวลาการเสิร์ฟอาหารนับ 10 จานที่มาเสิร์ฟตลอดค่ำคืน แขกที่มาร่วมงานต่างได้แชร์ช่วงเวลาดีๆ บนโต๊ะไม้ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยจำลองเรื่องราวการเดินทางของ Jacob’s Creek ผ่านลายฉลุบนไม้ยูคาลิปตัสที่ดูละม้ายคล้ายลำธารน้ำของเจค็อบที่ไหลผ่านไปทั่วทั้งโต๊ะ เปรียบเสมือนความภูมิใจของคนออสเตรเลีย ที่ดำเนินมาถึงน้ำสีสวยที่อยู่ในแก้วไวน์ตรงหน้า
ระหว่างเส้นทางการเดินทางผ่านอาหารสู่ใจคนจาก 11 ประเทศครั้งนี้ เราได้แบ่งปันเสียงหัวเราะ เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการกินดื่มกับคนแปลกหน้าต่างชาติ ที่กลายเป็นเพื่อนจากแดนไกลในที่สุด
เราพบว่าแม้คนเราจะต่างกันเพียงใด แต่สิ่งที่พวกเรามีไม่ต่างกันก็คือความสุขของการได้แลกรอยยิ้มกับเพื่อนร่วมทาง ผ่านอาหารและเครื่องดื่มดีๆ ที่ทำให้มื้อมื้อหนึ่งอร่อยขึ้นเป็นทวีคูณ
- แอดิเลด เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศออสเตรเลียซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการปลูกองุ่นและทำไร่ไวน์
- คำว่า ‘นาซโดรวี’ (Na zdrowie) เป็นคำที่เพื่อนนักข่าวชาวโปแลนด์สอนผู้เขียนในการชนแก้วกับคนโปแลนด์ โดยสื่อถึงการขอให้ผู้ร่วมชนแก้วมีสุขภาพที่ดี หรือว่าง่ายๆ คือคำว่า ‘Bless you’ ในภาษาอังกฤษนั่นเอง
- งาน Our Table จัดขึ้นรอบโลกมากว่า 20 ครั้งนับตั้งแต่การจัดครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี 2017 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘Made By’ ที่เฉลิมฉลองการใช้ชีวิต และสนับสนุนให้ผู้คนแบ่งปันประสบการณ์ และความหลงใหลในอาหารการกินร่วมกันไม่ว่าจะมาจากชาติภาษาใดผ่านไวน์แต่ละขวดที่ผลิตอย่างพิถีพิถันและกำเนิดมาจากดิน น้ำ และแสงแดดของออสเตรเลียอย่าง Jacob’s Creek