×

ถึงเวลาอีเวนต์กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ‘อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ’ พร้อมลุยจัดงานในต่างประเทศ เน้นโฟกัสซาอุดีอาระเบีย น่านน้ำใหม่ที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้น

22.09.2023
  • LOADING...
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน

ผ่านพ้นช่วงมรสุมโควิดไปแล้ว ถึงเวลาที่ธุรกิจอีเวนต์ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง แต่อีกฟากหนึ่งก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด เป็นตัวเร่งให้ ‘อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ’ ต้องปรับโมเดลธุรกิจ หันไปเน้นจัดงานในต่างประเทศ โฟกัสตลาดซาอุดีอาระเบียที่มีกำลังซื้อสูง จากนี้จะเป็นน่านน้ำใหม่ที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้น

 

“ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายของอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ แม้ภาพรวมตลาดอีเวนต์จะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่กลับมาครบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากภาครัฐยังไม่หันมาใช้งบจัดกิจกรรม เพราะอยู่ในช่วงรอยต่อของการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลที่เลื่อนยาวออกไปถึงปีหน้า ส่วนภาคเอกชนกลับมาใช้งบแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าลักชัวรีแบรนด์” เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัทอีเวนต์รายใหญ่ กล่าว

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ขณะเดียวกันหลังจากบรรยากาศโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นโควิดหรือเศรษฐกิจ กำลังซื้อที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดอีเวนต์และคอนเสิร์ตมีการแข่งขันสูง หากสังเกตจะเห็นว่ามีผู้เล่นรายใหม่ๆ กระโดดเข้ามาอยู่เป็นระยะๆ

 

ซีอีโอของอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ กล่าวต่อไปว่า จากนี้บริษัทจะนำความแข็งแกร่งของการจัดงานอีเวนต์ ที่เน้นการนำเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นเองและมีความแปลกใหม่ไปขยายในตลาดต่างประเทศ โดยโฟกัสที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, กัมพูชา และอินโดนีเซีย เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านรายได้ให้กับธุรกิจ 

 

ในปีนี้จะโฟกัสตลาดซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นน่านน้ำใหม่ที่มั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างมาก เพราะหลังไทยและซาอุดีอาระเบียกลับมากระชับความสัมพันธ์ในรอบ 30 ปี ก็มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางมาไทยกว่า 3 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญมีกำลังซื้อสูงมาก 

 

จากนั้นจะเริ่มขยายการจัดงานไปที่เกาหลีใต้, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบในการจัดงาน โดยเรามองว่าตลาดอินโดนีเซียมีความน่าสนใจอย่างมากด้วยจำนวนประชากรและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปได้อีกมาก 

 

ถึงกระนั้นตลาดไทยก็ให้ความสำคัญควบคู่กันไป โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีจะมีการจัดงานทั้งกิโลรันในจังหวัดภูเก็ตและกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นมหกรรมงานวิ่ง เที่ยว และกิน ที่ยิ่งใหญ่ ตามด้วยเตรียมจัดงาน Village of Wonder ที่ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้กลายเป็นไอคอนิกดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก 

 

เรียกได้ว่ากลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้สิ้นปี 2566 บริษัททำรายได้รวมมากกว่า 1 พันล้านบาท เติบโต 6% จากธุรกิจหลัก Marketing Service มีสัดส่วนรายได้ 82% ตามด้วย Creative Business Development 12% และ Own Creation 7%

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X