การโค่นอำนาจ บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย กระตุ้นให้อิสราเอลรุกคืบปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยเปิดฉากการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายทางทหารในซีเรีย อีกทั้งยังส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปทั้งในและนอกเขตกันชนปลอดทหารเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
กองทัพอิสราเอลเปิดเผยวานนี้ (10 ธันวาคม) ว่า กองทัพโจมตีเข้าใส่พื้นที่ต่างๆ ของซีเรียกว่า 480 ครั้งตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยโจมตีคลังอาวุธยุทธศาสตร์ของซีเรียเกือบทั้งหมด ขณะที่ คาตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอลกล่าวว่า กองทัพเรืออิสราเอลสามารถทำลายกองเรือซีเรียได้สำเร็จเมื่อคืนก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังกล่าวยกย่องด้วยว่า ปฏิบัติการนี้ ‘ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง’
กองทัพอากาศอิสราเอลระบุว่า จากการโจมตี 480 ครั้ง มีประมาณ 350 ครั้งที่เป็นการโจมตีด้วยเครื่องบินที่มีคนขับ โดยมุ่งเป้าไปยังสนามบิน, ฐานทัพต่อต้านอากาศยาน, ขีปนาวุธ, โดรน, เครื่องบินขับไล่, รถถัง และสถานที่ผลิตอาวุธในกรุงดามัสกัส, เมืองฮอมส์, เมืองทาร์ทัส, เมืองลาตาเกีย และเมืองปาลไมรา ส่วนที่เหลือเป็นการโจมตีเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดิน ซึ่งจะเน้นโจมตีคลังอาวุธ โครงสร้างทางทหาร และแท่นยิงต่างๆ
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวชื่นชมการล่มสลายของระบอบอัสซาดในซีเรียว่าเป็น ‘บทใหม่ที่น่าตื่นเต้น’ โดยระบุว่า “การล่มสลายของระบอบการปกครองซีเรียเป็นผลโดยตรงจากการที่เรากระหน่ำโจมตีฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และอิหร่านอย่างรุนแรง…แกนยังไม่หายไป แต่อย่างที่ผมสัญญาไว้ เรากำลังจะพลิกโฉมหน้าของตะวันออกกลาง”
สำนักข่าว CNN รายงานว่า อิสราเอลรู้สึกชื่นชมยินดีต่อการล่มสลายของระบบอัสซาด เนื่องจากเขาคือพันธมิตรรายสำคัญของอิหร่าน โดยเขาเป็นคนที่ปล่อยให้ซีเรียถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงและกองกำลังของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน แต่ในขณะเดียวกันอิสราเอลก็กังวลกับข้อเท็จจริงที่ว่า ขณะนี้กลุ่มติดอาวุธอิสลามกำลังเข้าปกครองซีเรียแทน
กิเดียน ซาอาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า อิสราเอลกำลังทิ้งระเบิดใส่ฐานทัพทหารซีเรีย ซึ่งมีคลังอาวุธเคมีและขีปนาวุธพิสัยไกล โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านี้ ‘ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง’ พร้อมย้ำว่า เวลานี้สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการสิ่งจำเป็นทั้งหมด เพื่อรักษาความมั่นคงของอิสราเอล
ผู้สื่อข่าวของ CNN ที่ประจำการอยู่ในกรุงดามัสกัสเผยว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นตลอดช่วงเช้าวานนี้ โดยเป็นการโจมตีลากยาวมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะ Voice of the Capital ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียกล่าวว่า การโจมตีด้วยระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา “เป็นการโจมตีกรุงดามัสกัสที่รุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี”
อย่างไรก็ตาม การกระทำของอิสราเอลเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มประเทศอาหรับ ซึ่งกล่าวหาอิสราเอลว่าใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงในซีเรียเพื่อยึดครองดินแดน โดยสันนิบาตอาหรับออกแถลงการณ์ว่า อิสราเอล “กำลังใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ภายในของซีเรีย” ส่วนอียิปต์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว “ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์จากสถานะที่คลุมเครือและเป็นสุญญากาศ เพื่อยึดครองดินแดนซีเรียเพิ่มเติม”
ภาพ: Miro Maman / Reuters
อ้างอิง: