จากงานวิจัยล่าสุดที่ศึกษาร่วมกันโดยทีมวิจัยโฆษณาชวนเชื่อ (Computational Propaganda Project) มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และกราฟิกา (Graphika) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย พบว่า รัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 ผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม และมีส่วนผลักดันให้โดนัลด์ ทรัมป์ แซง ฮิลลารี คลินตัน เข้าวินในที่สุด
งานวิจัย The IRA and Political Polarization in the United States ถูกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือศึกษาโฆษณาชวนเชื่อที่เกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 และเป็นอีกครั้งที่ข้อมูลบ่งชี้ว่ารัสเซียมีส่วนแทรกแซงความเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาจริง
ทีมวิจัยโฆษณาชวนเชื่อประจำมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และกราฟิการะบุว่า สำนักงานวิจัยอินเทอร์เน็ตของรัสเซีย (IRA) ได้เปิดฉากเข้าแทรกแซงสหรัฐอเมริกาผ่านการใช้โฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้ข้อมูลที่ผิดๆ แก่ประชาชนสหรัฐฯ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งผ่านการใช้โซเชียลมีเดียอย่าง เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์และยูทูบ จำแนกเป็นข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้
– IRA เริ่มต้นพยายามเข้าถึงผู้ใช้งานสหรัฐฯ บนทวิตเตอร์เมื่อปี 2013 แล้วปรับกลยุทธ์กระจายตัวเองไปในหลายๆ แพลตฟอร์มอย่างรวดเร็ว
– ตั้งแต่ปี 2013-2018 แคมเปญโฆษณาชวนเชื่อของ IRA ได้เข้าถึงผู้ใช้งานสหรัฐฯ มากกว่า 10 ล้านรายบนทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
– ผู้ใช้งาน 30 ล้านรายได้แชร์โพสต์ที่มีต้นตอจาก IRA ให้เพื่อนๆ ของพวกเขาในแต่ละแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้มีปฏิสัมพันธ์ ในช่วงระหว่างปี 2015-2017
– ช่วงที่มีการลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดียมากที่สุดมักจะตรงกับช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ ของประเทศ รวมถึงวันสำคัญทางการเมืองสหรัฐฯ
– ถึงอย่างนั้นก็ดี คอนเทนต์ออร์แกนิกของ IRA กลับเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้มากกว่าโพสต์ที่ซื้อสปอนเซอร์
โดยกลยุทธ์ที่ IRA ใช้แทรกแซงสหรัฐอเมริกานั้นประกอบไปด้วยการพยายามปลุกระดมให้กลุ่มพลเมืองแอฟริกัน-อเมริกาบอยคอตการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว หรือไม่ก็พยายามสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ให้พวกเขาเหล่านั้นทำผิดกติกาการเลือกตั้งเพื่อให้กลายเป็นคะแนนเสีย กระตุ้นให้กลุ่มขวาจัดรู้สึกฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น และเผยแพร่ข่าวแนวกระตุ้นต่อมอารมณ์ร่วมผ่านข่าวการเมืองที่ให้ข้อมูลแบบผิดๆ (fake news)
ทีมวิจัยยังบอกอีกด้วยว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดที่แม้รัสเซียและ IRA จะถูกจับได้ว่าเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 กระนั้นก็ดี เอ็นเกจเมนต์ของพวกเขากลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ และครอบคลุมในทุกประเด็นใหญ่ๆ เช่น ประเด็นทางการเมือง ความมั่นคงของชาติและประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพลเมืองรุ่นใหม่ที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง
ริชาร์ด เบอร์ วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกากล่าวผ่านแถลงการณ์ถึงการเปิดเผยงานวิจัยชิ้นนี้ว่า “ข้อมูลทั้งหมดได้แสดงให้เห็นว่ารัสเซียมีความพยายามจะแบ่งแยกชาวอเมริกันออกจากกันด้วยความเชื่อทางศาสนา ชาติพันธ์ุ และอุดมการณ์ความเชื่อต่างๆ มากเพียงใด”
การเปิดเผยข้อมูลร่วมกันโดยทีมวิจัยโฆษณาชวนเชื่อประจำมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และกราฟิกาในครั้งนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีการเปิดเผยงานศึกษาเป็นจำนวนมากที่ชี้ให้เห็นว่ารัสเซียมีส่วนสำคัญในการเข้ามาปลุกปั่นสหรัฐอเมริกาในช่วงเลือกตั้ง 2016 ผ่านเฟกนิวส์ และการประชาสัมพันธ์โฆษณาชวนเชื่อต่างๆ นานา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
