×

‘2 IPO’ กลุ่มพลังงาน ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นเพิ่มทุน เตรียมเข้าตลาดปีหน้า นำเงินระดมทุนต่อยอดธุรกิจ-ชำระหนี้

22.12.2021
  • LOADING...
IPO กลุ่มพลังงาน

สำนักงาน ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC) ซึ่งมีแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 110 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาด mai ต้นปีหน้า ขณะที่ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (TGE) ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 600 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินระดมทุนไปสร้างโรงไฟฟ้าขยะ-ชำระคืนหนี้ โดยจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายใน SET 

 

วรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC) ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว และล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งแบบไฟลิ่ง

 

โดย PTC มีทุนจดทะเบียน 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.83% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

 

PTC เป็นผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน โดยมีลักษณะการดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 

 

  1. บริการรับ เก็บ และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปประเภทเบนซินและดีเซลให้บริการที่คลังน้ำมันจังหวัดขอนแก่น (คลังขอนแก่น) และคลังน้ำมันจังหวัดศรีสะเกษ (คลังศรีสะเกษ)

 

  1. บริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปตามที่ลูกค้าต้องการ ให้บริการที่คลังศรีสะเกษ

 

ผลการดำเนินงานในช่วงปี 2561-2563 บริษัทมีรายได้จากการให้เช่าและบริการรับ เก็บและจ่ายน้ำมันในปี 2561 จากคลังน้ำมันขอนแก่นเพียงแห่งเดียวจำนวน 161.97 ล้านบาท และต่อมาในปี 2562 มีรายได้ 176.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.19% และปี 2563 มีรายได้ 253.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.29% โดยช่วงปี 2562-2563 รายได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเปิดคลังศรีสะเกษในเดือนกรกฎาคม 2562 

 

ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2561-2563 ทำได้ 75.42 ล้านบาท, 55.43 ล้านบาท และ 111.06 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 45.68%, 31.28%, 43.76% ตามลำดับ โดยในปี 2563 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100.37% เนื่องจากคลังน้ำมันศรีสะเกษเปิดให้บริการเต็มปี ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการชำระหนี้เงินกู้ระยะยาวต่อเนื่อง

 

ส่วนในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้ 166.29 ล้านบาท ลดลง 11.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงตามยอดจำหน่ายน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดมีโรงงานบางส่วนหยุดการผลิต ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์ลดลง ทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 72.23 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.98% 

 

อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 กลับปรับตัวดีขึ้นเป็น 43.33% เพิ่มขึ้น 0.98% จากงวด 9 เดือนของปี 2563 ซึ่งกำไรสุทธิชะลอตัวเนื่องจากรายได้จากการให้เช่าและบริการลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นจากงวด 9 เดือนแรกของปีก่อน

 

ท่าฉางฯ ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 600 ล้านหุ้น เข้า SET

บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (TGE) ยื่นไฟลิ่งและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 600 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.3% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

 

TGE ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 2 ประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวลจากทะลายปาล์มเปล่า เส้นใยปาล์ม หรือวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรกรรม เช่น ไม้ชิพ รากไม้สับ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน

 

บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปใช้ลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบันดังนี้ 

 

– โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดสระแก้ว

– โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดราชบุรี

– โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดชุมพร 

– ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน

– ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

 

กลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 4 โครงการ คาดว่าหากได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการในปี 2565 จะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 2569

 

TGE บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้าในกลุ่มทั้งหมด รวมกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่ COD และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการให้มากกว่า 100 เมกะวัตต์ภายในปี 2570 และเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 200 เมกะวัตต์ภายในปี 2575 โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน

 

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เปิด COD แล้ว 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 22 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูล 4 โครงการ

 

ผลการดำเนินงานในปี 2561-2563 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย 274.3 ล้านบาท, 336.1 ล้านบาท และ 650.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 54.1% ต่อปี มาจากโรงไฟฟ้าชีวมวลเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเปิด COD และในปี 2563 กลุ่มบริษัทเริ่มมีรายได้จากการรับบริหารจัดการกำจัดขยะจากโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจังหวัดสระแก้ว ขณะที่มีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท 94.3 ล้านบาท และ 166.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 31.7%, 28.1% และ 25.7%

 

งวด 9 เดือน ปี 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย 561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.3% มีกำไรสุทธิ 154.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.9 เมกะวัตต์ เริ่ม COD และรายได้จากการจำหน่ายน้ำและไอน้ำ 30.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.5 ล้านบาท

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising