ปัจจุบันคนไม่ได้ใช้ iPad เพียงแค่ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ด้วยการมาของ Apple Pencil 2 ทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้มีความยืดหยุ่น สามารถตอบโจทย์การทำงานในด้านครีเอทีฟและสายที่ชอบขีดๆ เขียนๆ หรือจดโน้ตได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดเรามีโอกาสได้คุยกับ บ๊อบ บอร์เชอร์ ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President of Product Marketing ของ Apple และสตีเฟน ทอนนา ตำแหน่ง Apple Product Marketing ถึงการเติบโตของ iPad นับตั้งแต่วันแรกที่สินค้าวางจำหน่าย เรื่อยมาจนถึงการปล่อยอุปกรณ์เสริมอย่าง Magic Keyboard, Apple Pencil รุ่น 1 และรุ่นที่ 2 รวมถึง iPad ตระกูลล่าสุดที่ทำให้เราเห็นถึงวิวัฒนาการและอนาคตของมันที่ไม่ได้มอบแค่ความบันเทิง หากแต่ยังใช้ทำงานได้อีกด้วย โดยเฉพาะงานสายครีเอทีฟอย่างคอนเทนต์ครีเอเตอร์, นักวาดภาพประกอบ, ช่างภาพ ฯลฯ รวมถึงการใช้จดบันทึกแทนที่สมุดโน้ตของนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งนี้เราจึงชวน อู๋-พศุตม์ วุฒิกรสมบัติกุล หรือ @tuagomstudio ฟรีแลนซ์อิลลัสเตรเตอร์ และนัท-ณัฏฐ์ เต็งชาตะพันธุ์ หรือ @peanut.bt คอนเทนต์ครีเอเตอร์ในยูทูบและเฟซบุ๊กอย่าง Peanut Butter ที่สอนเกี่ยวกับเทคนิคการจดโน้ตและการเรียนให้มาแชร์แอปพลิเคชันใน iPad ที่ทั้งสองอยากแนะนำให้คนทำงานด้านครีเอทีฟหรือศิลปะ และคนที่ชอบจดโน้ตสวยๆ อย่างนักเรียนและนักศึกษาได้ลองหามาใช้กัน
ตัวอย่างผลงานของ อู๋-พศุตม์ วุฒิกรสมบัติกุล หรือ @tuagomstudio
นัท-ณัฏฐ์ เต็งชาตะพันธุ์ หรือ @peanut.bt
“ถ้าพูดถึงการวาดรูป ผมแนะนำ ProCreate ที่ซื้อรอบเดียวจบเลย สามารถทำงานระดับมืออาชีพ และจบงานใน iPad ได้โดยไม่ต้องไปจบในคอมพิวเตอร์ แถมยังสามารถอัดหน้าจอขณะทำงานได้อย่างอัตโนมัติ เหมาะสำหรับคนที่อยากทำ Tutorial เพื่อสอนคนในยูทูบ อีกตัวคือ Lightroom เหมาะสำหรับแต่งภาพ ข้อดีคือคนที่ Subscribe ไว้แล้วในคอมพิวเตอร์สามารถนำมาใช้ร่วมกันใน iPad ได้เลย จุดเด่นอยู่ที่ความละเอียด สามารถแต่งภาพที่เป็นไฟล์ Raw ได้ ทำงานระดับมืออาชีพ ใช้งานง่าย มีระบบอินเทอร์เฟซที่ดูง่าย” อู๋แนะนำ
ส่วนนัทเน้นการขีดเขียนและจดโน้ตจึงแนะนำ “GoodNotes5 สำหรับจดเอกสาร โดยเฉพาะเด็กสายวิทย์ จุดเด่นอยู่ที่การใช้งานง่าย เข้าใจง่าย มีระบบอินเทอร์เฟซสวย ไม่ซับซ้อน ไม่ยุ่งยาก มีลูกเล่นต่างๆ ที่น่ารัก และมีฟังก์ชันช่วยในการจำศัพท์ ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่สุด อีกตัวคือ ProCreate เหมาะกับสายศิลป์ที่ชอบวาดภาพ แต่ถึงไม่ใช่คนวาดภาพเป็นอย่างนัทก็ยังใช้ทุกวัน เพราะมีฟังก์ชันที่เหมือน Photoshop เช่น กรรไกรตัด เลเยอร์ หรือการเบลนด์สี แถมยังทำแอนิเมชันเล็กๆ เบื้องต้นได้อีกด้วย และอีกตัวคือ Over แอปพลิเคชันสำหรับทำอาร์ตเวิร์กที่มีกราฟิกและฟอนต์ให้เลือก สามารถหยิบมาวางเป็นเลเยอร์ได้เลย ง่ายมากๆ”
สรุปอีกทีว่าแอปพลิเคชันที่อยากแนะนำ ได้แก่ ProCreate สำหรับวาดรูป ส่วน Lightroom เหมาะสำหรับตกแต่งภาพ หากเป็นสายจดแนะนำ GoodNotes5 ในขณะที่ Over เหมาะสำหรับทำอาร์ตเวิร์กสวยๆ ใครใช้งานลักษณะไหนบ่อย ลองหามาใช้กัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
