×

ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 11 ทำอะไรได้บ้าง?

21.09.2017
  • LOADING...
 

      ระบบปฏิบัติการลำดับที่ 11 และเวอร์ชันล่าสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท Apple อย่าง iPhone และ iPad ที่ชูจุดเด่นด้านความสามารถของระบบในการทำงานร่วมกับ Machine Learning รวมถึงความสามารถในการแสดงผลเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

 

 

ข้อมูลโดยทั่วไป :

รุ่นไหนบ้างที่สามารถอัพเดตได้

iPhone

  • iPhone X
  • iPhone 8 Plus
  • iPhone 8
  • iPhone 7 Plus
  • iPhone 7
  • iPhone SE
  • iPhone 6S Plus
  • iPhone 6S
  • iPhone 6 Plus
  • iPhone 6
  • iPhone 5S

iPad

  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 2
  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 1
  • iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
  • iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
  • iPad Air 2
  • iPad Air
  • iPad รุ่นที่ 5
  • iPad mini 4
  • iPad mini 3
  • iPad mini 2

iPod

  • iPod touch
    รุ่นที่ 6

เปิดให้ดาวน์โหลด

     เวอร์ชันเต็ม 19 กันยายน 2017 และเวอร์ชันทดลอง (BETA) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2017

ขนาดไฟล์

     โหลดไฟล์โดยตรงสกุล .ipsw ประมาณ 2.4 GB ขึ้นไป

     โหลดผ่าน Wi-Fi ประมาณ 2.04 GB

 

 

มีอะไรใหม่บ้าง?

iPhone

     1. หน้าตาอินเทอร์เฟซแบบใหม่

     สิ่งที่เปลี่ยนไปและสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดคือหน้าตาอินเทอร์เฟซแบบใหม่ ทั้ง Control Center ที่ถูกออกแบบให้ใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น, หน้าจอล็อกแบบใหม่, โลโก้ของแอปพลิเคชันบางตัวที่เปลี่ยนไป เช่น App Store และ iTune Store รวมถึงเครื่องคิดเลขแบบใหม่

     2. Machine Learning

     มีการนำ Machine Learning เข้ามาช่วยในการทำงานของระบบและการเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้งานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ยังคงยืนยันเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

     3. พัฒนาเพื่อให้ใช้งาน AR ได้แบบไร้ขีดจำกัด

     อุปกรณ์ที่อัพเดตระบบปฏิบัติการเป็น iOS 11 จะสามารถใช้งานเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือแอปพลิเคชันต่างๆ โดยตอนนี้ App Store เร่ิมแนะนำแอปฯ หมวดหมู่แอปพลิเคชันที่รองรับเทคโนโลยีนี้แล้วเช่นกัน ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีแอปพลิเคชันที่รองรับ AR ใน App Store มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

     4. App Store เวอร์ชันใหม่

     มีการปรับปรุง App Store ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ เริ่มตั้งแต่ไอคอนของแอปฯ,​ อินเทอร์เฟซในการใช้งานภายในที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

     5. Screen Recording อัดวิดีโอที่หน้าจอได้ทันที

     ตอนนี้ผู้ใช้งาน iPhone หรือ iPad สามารถถ่ายวิดีโอบนหน้าจอได้แล้ว โดยสามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์นี้ได้จาก Control Center และยังสามารถแคปหน้าจอพร้อมปรับแต่งไฟล์ภาพหรือจดรายละเอียดต่างๆ ได้เลย

     6. Siri ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

     มีการพัฒนา Siri ให้ฉลาดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการประมวลผลเเละการออกเสียง รวมถึงยังสามารถแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปนได้อีกด้วย และยังสามารถคาดคะเนสิ่งที่ผู้ใช้งานจะทำหรือข้อความที่จะพิมพ์จากความสนใจล่าสุดผ่านการใช้งานเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่างๆ

     7. iMessage ที่ทำธุรกรรมได้

     ข้อความจะสามารถซิงก์เชื่อมกันได้ทุกอุปกรณ์ รวดเร็ว แบ็กอัพได้ง่ายกว่า และยังสามารถทำธุรกรรมผ่าน Apple Pay จ่ายเงินให้ใครๆ ก็ได้ (person-to-person payments) แต่ฟีเจอร์นี้ยังรองรับการใช้งานแค่ในบางประเทศเท่านั้น

     8. Notes ที่ถูกปรับให้ใช้งานได้รอบด้าน

     ใน iOS เวอร์ชันใหม่นี้ ผู้ใช้งานสามารถสแกนไฟล์เอกสารลงบนตัว Notes ได้แล้ว

     9. Camera กล้องถ่ายรูปที่มาพร้อมความสามารถสุดเจ๋ง

     สามารถเลือกภาพนิ่งจากภาพถ่ายแบบ Live Photos, มีหมวด Memories ที่ร้อยเรียงภาพถ่ายต่างๆ เป็นเรื่องราวแบบวิดีโอได้ และยังทำงานร่วมกับ Machine Learning ที่เรียนรู้ภาพถ่ายของบุคคล สัตว์ และสภาพแวดล้อมจากคลังภาพ นอกจากนี้ก็ยังสแกน QR Code ได้แล้ว!

     10. Maps แผนที่แบบใหม่ละเอียดขึ้น

     แผนที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้โชว์แผนผังภายในอาคาร ห้างสรรพสินค้า และสนามบิน เพื่อประโยชน์ในการวางเเผนการเดินทาง (รองรับแค่บางสถานที่เท่านั้น) ส่วนแผนที่สำหรับการเดินทางบนท้องถนนก็มีการบอกความเร็วที่จำกัดและการเปลี่ยนเลน รวมถึงฟีเจอร์ห้ามรบกวนขณะขับรถที่หน้าจอโทรศัพท์จะดับลงชั่วคราว (Do not Disturb While Driving)

 

 

สำหรับ iPad

     1. Dock แบบใหม่ ทำงานเหมือนไฮบริดแท็บเล็ต

     มีการเพิ่มแถบ Dock ด้านล่างหน้าจอขึ้นมา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น ลากภาพที่เพิ่งเปิดใช้มาลงในคีย์โน้ตได้ทันที

     2. Multitasking ใช้งานหลายๆ เเอปฯ ได้พร้อมกัน  

     ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานบนแอปพลิเคชันหลายๆ แอปฯ ได้พร้อมกัน ผ่านการแยกหน้าจอของ iPad ออกเป็น 2 จอ (Split View)

     3. Drag and Drop ลากข้อความและภาพแบบง่ายๆ

     ตอนนี้ใน iPad คุณสามารถลาก URL เว็บไซต์ หรือภาพจากอัลบั้มรูปมาวางลงในอีเมลได้อย่างอิสระ

     4. Apple Pencil ที่จดจำลายมือผู้ใช้ได้

     รองรับการใช้งานแบบ Screenshot Writing เขียนทับไฟล์รูปได้ทันที และยังใช้ระบบ Machine Learning ช่วยจดจำลายมือของผู้ใช้งานได้อีกด้วย

 


 

ข้อควรระวังในการอัพเดต

     1.สำรองข้อมูลก่อนอัพเดตเสมอ

     ก่อนการอัพเดตเวอร์ชันทุกครั้งควรสำรองข้อมูลภายในโทรศัพท์ด้วยการแบ็กอัพ (Backup) ไว้ก่อนเสมอ เพื่อป้องกันกรณีข้อมูลสูญหาย โดยสามารถเลือกแบ็กอัพข้อมูลทั้งหมดได้จาก iTunes โดยตรง

     2. แบ็กอัพ และ รีสโตร์ ไม่เหมือนกัน

     การแบ็กอัพคือการสำรองข้อมูลในตัวเครื่องเพื่อป้องกันกรณีข้อมูลสูญหายก่อนทำการอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ส่วนการรีสโตร์ (Restore) คือการล้างข้อมูลภายในเครื่องทิ้งทั้งหมดเพื่อติดตั้งระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่

     3. อัพเดตผ่าน Wi-Fi ง่าย…​ แต่ก็พบข้อผิดพลาดได้ง่ายเช่นกัน

     ถึงแม้การอัพเดต iOS แบบไร้สายผ่าน Wi-Fi จะสามารถทำได้ง่ายและสะดวก แต่การอัพเดตแบบไร้สายก็มาพร้อมกับปัญหาจุกจิกได้เช่นกัน หากระดับความแรงของสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียรก็อาจทำให้การอัพเดตระบบปฏิบัติการล้มเหลว เช่นเดียวกันกับการที่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ให้เต็มไว้ก่อนเลือกอัพเดต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising