สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานผลสำรวจ CNBC Fed Survey คาดการณ์ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้ ที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เชื่อว่า Fed จะประกาศตัดสินใจลดปริมาณซื้อคืนพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเริ่มเดินหน้าพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ เนื่องจากแรงกดดันด้านสภาวะเงินเฟ้อพุ่งในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมดเชื่อว่า Fed จะประกาศเรื่องลดปริมาณซื้อคืนพันธบัตรในแถลงการณ์วันพุธนี้ (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) และลดแผน QE ในเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ขณะที่ในส่วนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า Fed น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนปีหน้า ซึ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมจากการสำรวจครั้งก่อนที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2022
อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนหนึ่งเชื่อว่า Fed น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนกรกฎาคมปีหน้า
ขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดลงความเห็นว่า ต้องการให้ Fed แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวและชัดเจนต่อการจัดการกับภาวะเงินเฟ้อพุ่ง และหากเป็นไปได้ก็คาดหวังให้ Fed ยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทันที เพื่อระงับอัตราเงินเฟ้อ พร้อมระบุว่า ภายใต้แผนลดปริมาณซื้อคืนพันธบัตรรายเดือนของ Fed ในขณะนี้ไม่เพียงพอที่จะจัดการอัตราเงินเฟ้อสูงในปัจจุบันได้ โดยขณะนี้ เงินเฟ้อกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงคุกคามเศรษฐกิจสหรัฐฯ แทนที่สถานการณ์โควิดแล้ว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะลดลงไปแตะเป้า 2% ของ Fed โดยที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอยได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่า เป็นไปได้ยากที่เงินเฟ้อจะลดลง โดยที่ไม่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
โดย 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า แผนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นจากวิกฤตโควิดของสภาคองเกรสฉบับล่าสุด จะทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก เว้นเสียแต่ว่า รัฐบาลจะออกมาตรการปรับขึ้นภาษีควบคู่ไปด้วย กระนั้น 36% ของคนที่ตอบแบบสอบถามกลับเห็นว่า ต่อให้ขึ้นภาษีก็ไม่ช่วยอะไร และยิ่งไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่บอกว่าการกระตุ้นการใช้จ่ายจะช่วยให้เงินเฟ้อลดลงได้
ขณะเดียวกัน เกือบ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ทางเดียวที่จะแก้เงินเฟ้อได้ก็คือให้ Fed เร่งลดและเลิกแผน QE ให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ รวมถึงเร่งการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น
ในส่วนของการเติบโตของสหรัฐฯ โดยรวม ผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้ลดลงเหลือ 5% จาก 6.6% ในการสำรวจเมื่อเดือนกรกฎาคม ส่วนการเติบโตในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6%
ด้านความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า มีโอกาสที่ตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปีจะเคลื่อนที่อยู่ในภาวะขาลง ขณะที่ 39% ระบุว่ามีโอกาสขยับปรับขึ้น กระนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ดัชนี S&P 500 จะลดลงครึ่งเปอร์เซ็นต์ในช่วงระหว่างปัจจุบันนี้จนถึงสิ้นปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% ในปีหน้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี จะเพิ่มขึ้นแตะ 2.2% ในปี 2022
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP