×

ทางการสหรัฐฯ เริ่มสอบสวนคดีพบ 51 ศพในรถบรรทุกที่จอดทิ้งไว้ในเท็กซัส ใกล้ชายแดนติดเม็กซิโก

29.06.2022
  • LOADING...
คดีพบ 51 ศพในรถบรรทุก

วันนี้ (29 มิถุนายน) ทางการสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นสืบสวนสอบสวนกรณีพบร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 รายภายในรถบรรทุกคันหนึ่งที่จอดทิ้งไว้ที่เมืองซานอันโตนิโอ ในรัฐเท็กซัส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่บริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก นับเป็นเหตุน่าสลดที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และลักลอบเข้าประเทศบริเวณแถบชายแดนใกล้กับเม็กซิโกที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด

 

โดยทางการได้ติดตามจนพบตัวคนขับรถและผู้ร่วมลงมืออีก 2 ราย ซึ่งคนขับเป็นพลเมืองอเมริกัน ขณะที่กำลังพักรัษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ขณะที่ผู้ร่วมลงมือก่อเหตุอีก 2 ราย เป็นชายชาวเม็กซิกัน ทั้งคู่ถูกจับกุมขณะอยู่ภายในอาคารหลังหนึ่ง พร้อมถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย

 

ในจำนวน 51 ศพ เป็นศพผู้ชาย 39 ศพ และศพผู้หญิงอีก 12 ศพ ทั้งหมดถูกอัดอยู่ในรถบรรทุกที่จอดทิ้งไว้บริเวณชานเมืองซานอันโตนิโอ ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ทางการท้องถิ่นระบุ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นโศกนาฏกรรมที่ยากเกินจะอธิบายได้ ในขณะที่ผู้รอดชีวิตบางส่วนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นลมหมดสติเนื่องจากความร้อนและร่างกายอยู่ในภาวะอ่อนเพลีย 

 

เบื้องต้นมีการยืนยันว่าในจำนวน 51 ศพ เป็นชาวเม็กซิกันอย่างน้อย 27 ศพ เป็นชาวกัวเตมาลา 3 ศพ และเป็นชาวฮอนดูรัสอีก 4 ศพ ขณะศพที่เหลือยังรอการตรวจพิสูจน์และยืนยันสัญชาติ

 

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนระบุว่า “การหาประโยชน์จากปัจเจกชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง” โดยทางการสหรัฐฯ จะเดินเรื่องให้ผู้รอดชีวิตจากรถบรรทุกดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการขออพยพลี้ภัยและพำนักในสหรัฐฯ ชั่วคราวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

 

หน่วยงานของทางการสหรัฐฯ เผยว่ามีผู้เสียชีวิตบริเวณชายแดนฝั่งติดกับเม็กซิโกแล้วอย่างน้อย 557 รายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วกว่าเท่าตัว (247 ราย) และสูงสุดนับตั้งแต่เก็บสถิติมาเมื่อปี 1998 ซึ่งส่วนใหญ่มักเสียชีวิตด้วยโรคลมแดด

 

ภาพ: Go Nakamura / Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising