×

ทำความรู้จัก ‘8 วัสดุปลูก’ เพื่อการปลูกต้นไม้ให้ถูกทาง

18.06.2020
  • LOADING...

การปลูกต้นไม้มีหลายเทคนิค หลายวิธีการ เขาบอกกันว่าใครมือเย็นปลูกอะไรก็ขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าคนมือร้อนจะปลูกไม่ได้ หากรู้หลักและใส่ใจ เราเชื่อว่าปลูกอะไรก็รอด ต้นไม้มีสิ่งสำคัญที่ควรระวังอยู่ 5 เรื่อง ได้แก่ แสงต้องถึง น้ำต้องเพียงพอ อากาศต้องถ่ายเท ปุ๋ยต้องหมั่นใส่ และดิน (วัสดุปลูก) ต้องแน่น โดยเฉพาะอย่างหลังที่หากใช้ผิดประเภทต้นไม้อาจมีอาการไปไม่เป็นเช่นกัน 

 

บทความนี้เราจึงขอแนะนำและทำความรู้จักวัสดุปลูกประเภทต่างๆ รวมถึงพื้นฐานการใช้งานอย่างง่ายๆ ที่พอจะทำให้เลี้ยงต้นไม้รอด อย่าลืมว่าการปลูกต้นไม้หาใช่การแก้ปัญหาด้วยสูตรคณิตศาสตร์ เพราะไม่มีอะไรตายตัวในโลกสีเขียว

 

 

ดิน

ดินมีหลายสูตรหลายประเภทให้เลือกใช้ ส่วนมากจะระบุไว้ตั้งแต่หน้าถุงแล้วว่าเหมาะกับปลูกอะไร ไม้ดอกไม้ประดับหรือเพาะกล้า ซึ่งไม้แต่ละชนิดก็ชอบวัสดุปลูกไม่เหมือนกัน บางประเภทชอบดินโปร่ง บางประเภทชอบดินระบายน้ำแต่เก็บความชื้นได้ดี นอกจากลักษณะของดินแล้วยังมีเรื่องแร่ธาตุ เพราะดินถุงที่วางขายส่วนใหญ่มักมีธาตุอาหารน้อย บางคนก็หันไปใช้ดินผสมมูลไส้เดือน หรือพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เลือกผสมดินใช้เอง เพื่อเสริมธาตุอาหารให้เพียงพอและตรงตามความต้องการของต้นไม้แต่ละชนิด เราจึงได้ยินส่วนประกอบบางชนิดที่มักผสมอยู่ในดิน แต่ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อะไร อาทิ ใบก้ามปู ใบก้ามปูเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีธาตุไนโตรเจนสูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นธาตุหนึ่งที่พืชต้องการ สังเกตได้ว่าเวลาชาวนาปลูกข้าวเสร็จ เขาจะเปลี่ยนมาปลูกพืชตระกูลถั่ว เพื่อเพิ่มแร่ธาตุให้กับผลผลิตในปีต่อๆ ไป นอกจากนี้ใบก้ามปูยังย่อยสลายช้า ช่วยรักษาสภาพดินให้ร่วน โปร่งนาน หากใช้ไม้ใบที่ย่อยสลายเร็ว อาจทำให้เกิดความร้อนในดิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อพืช และอาจทำให้ดินกลายสภาพเป็นดินแข็งอีกด้วย

 

We Say: ไม้ดอกไม้ประดับชอบดินร่วน ต้นเพาะกล้าหรือเพาะเมล็ดเหมาะกับดินระบายน้ำได้ดีและเก็บความชื้นได้ ไม้อวบน้ำ แคคตัส หรือบอนไซ ชอบดินโปร่งระบายน้ำและอากาศได้ดี หากธาตุอาหารในดินไม่เพียงพอ สามารถผสมวัสดุปลูกอื่นๆ ร่วมด้วยได้

 

 

หินภูเขาไฟ (Pumice)

ลักษณะเหมือนก้อนหิน มีรูพรุน น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ช่วยป้องกันไม่ให้ดินจับตัวเป็นก้อน ทำให้อากาศหมุนเวียนในภาชนะปลูก ที่สำคัญในหินภูเขาไฟยังมีแร่ธาตุสำคัญอยู่ เช่น ซิลิกา แคลเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งธาตุเหล่านี้ช่วยดูดซับสารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ดี และยังช่วยลดความเป็นกรดในดินได้อีกด้วย หินภูเขาไฟมีหลายขนาด คนนิยมนำขนาดเล็กเบอร์ 1 มาใช้ผสมดินปลูกต้นไม้ที่ต้องการความร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี หรือขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยประมาณเบอร์ 2 หรือ 3 จะใช้รองก้นกระถางต้นไม้ ช่วยให้น้ำไม่ขังอยู่ในภาชนะปลูกซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่าด้วย นอกจากนี้ยังนำมาโรยหน้ากระถางเพื่อป้องกันไม่ให้หน้าดินกระจัดกระจายเวลารดน้ำ อีกทั้งยังช่วยกักเก็บความชื้นให้อยู่ภายในกระถางพืชที่เหมาะกับการใช้หินภูเขาไฟปลูกมีหลายชนิด แต่ที่ฮิตสุดๆ ก็คงจะเป็นกระบองเพชรนั่นแหละครับ

 

We Say: หินภูเขาไฟเบอร์ 1 ใช้ผสมกับดินเพื่อเพิ่มความร่วนซุย ส่วนเบอร์ 2 และ 3 ให้รองก้นกระถาง ช่วยระบายน้ำได้ดี หรือนำมาโรยหน้ากระถางก็ได้ ใช้ได้ทั้งแคคตัสและบอนไซ

 

 

พีตมอส (Peat Moss)

พีตมอสเกิดจากคำว่า Peat หมายถึงซากพืชหรือซากสัตว์ที่ทับถมกันมานานหลายปี และคำว่า Moss หรือพืชจำพวกมอส มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เมื่อนำมารวมกันจึงหมายถึงวัตถุที่เกิดจากการย่อยสลายของมอสสายพันธุ์หนึ่งคือสแฟกนัม (Sphagnum sp.) เรามักพบพีตมอสอยู่ชั้นล่างของสแฟกนัมมอสที่ยังมีชีวิต ใช้เวลาสะสมและย่อยสลายนานหลายร้อยปี และมักจะเติบโตได้ดีในพื้นที่อากาศหนาวเย็น จึงต้องนำเข้ามาขายในประเทศไทย ทำให้มีราคาสูงกว่าดินทั่วไป พีตมอสเป็นอินทรียวัตถุที่มีความโปร่ง สามารถเก็บความชื้นได้ดี อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และยังปราศจากเชื้อโรคที่มักติดมากับดิน คนนิยมนำมาใช้เพาะเมล็ด เพาะกล้า หรือผสมกับวัสดุปลูกชนิดอื่นๆ ในประเทศไทยนำเข้าพีตมอสหลายแบรนด์ ผมเคยลองใช้ Super Peat ที่ใส่ธาตุอาหารเพิ่มเติมลงไปด้วย ราคาสูงกว่าพีตมอสทั่วไป แต่ก็แลกมากับปริมาณสารอาหารเพิ่มมากขึ้น พีตมอสขนาด 5 ลิตร 1 ถุง พอดีกับถอดเพาะเมล็ด 100 หลุม

 

We Say: วัสดุปลูกสำหรับเพาะเมล็ดหรือเพาะกล้า เพราะไม่มีเชื้อโรคและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ บางยี่ห้อเสริมธาตุอาหารเยอะเป็นพิเศษ

 

 

กาบมะพร้าวสับ / ขุยมะพร้าว 

วัสดุสารพัดประโยชน์ที่คนเลี้ยงต้นไม้คุ้นเคยมากที่สุด เพราะพืชหลายชนิดจำเป็นต้องพึ่งพาคุณสมบัติของกาบมะพร้าวสับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงบางพวกสามารถใช้กาบมะพร้าวสับแทนดินในการปลูกได้เลย อย่างพืชไม้รากอากาศจำพวกมอนสเตอรา ซานาดู หรือไม้ประดับ ไม้เลื้อย ไปจนถึงไม้ใบหลายๆ ชนิด เนื่องจากคุณสมบัติอุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี จึงเหมาะกับต้นไม้ที่ชอบความชื้น (แต่ไม่แฉะ) ส่วนขุยมะพร้าวมีน้ำหนักเบา อุ้มน้ำได้ดีไม่แพ้กาบมะพร้าวสับ ข้อดีคือมีธาตุโพแทสเซียมอยู่ เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นวัสดุปลูกไม้ตอนตอนกิ่ง หรือผสมดินเพื่อเพิ่มความร่วนซุยให้กับชั้นดิน ก่อนนำกาบมะพร้าวมาใช้ควรแช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 วัน เพราะในกาบมะพร้าวมีสารแทนนินอยู่จำนวนมาก เมื่อละลายน้ำจะกลายเป็นกรดแทนนิกที่มีผลกับต้นไม้บางชนิด ส่งผลให้เกิดอาการขอบใบไหม้หรือเหลืองตามมาได้ หมั่นเปลี่ยนกาบมะพร้าวทุกปี และไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้ง แม้จะต้องใช้ในปริมาณมาก แต่ราคาก็ยังเป็นมิตรเพียงถุงละ 30-50 บาท ซื้อไปเถอะครับ จะได้ช่วยอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าด้วย

 

We Say: วัสดุปลูกติดกระถางจำพวกมอนสเตอราและตระกูลฟิโลเดนดรอน เช่น ซานาดู, พิงก์ปรินเซส รวมถึงไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป

 

 

แกลบเผา / ขี้เถ้าแกลบ

วัสดุปลูกสีดำผ่านการเผาจนกลายเป็นขี้เถ้ามาแล้ว มีความโปร่ง ระบายน้ำได้ดีเช่นเดียวกับพีตมอส จึงมักนำมาผสมกับดินหรือวัสดุปลูกชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะพืชที่ต้องการความร่วนและธาตุอาหารอย่างพืชเพาะกล้า เพาะชำ หรืออนุบาลต้นไม้ ขี้เถ้าแกลบมีค่า pH ค่อนข้างสูง ช่วยลดความเป็นกรดในดินได้ แต่หากไม่แน่ใจว่าดินของคุณเป็นกรดหรือไม่ ก่อนนำมาใช้ควรชะด้วยน้ำเปล่า เพื่อป้องกันพืชแสดงอาการใบเหลืองทีหลัง แม้หน้าตาของขี้เถ้าแกลบจะดูธรรมดา แต่เป็นวัสดุปลูกที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เนื่องจากภายในขี้เถ้าล้วนอุดมไปด้วยธาตุคาร์บอน จึงเป็นการเพิ่มคาร์บอนให้กับดิน แทนที่จะเปลี่ยนเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ถึงแม้สุดท้ายต้นไม้จะคายมันออกมาในตอนกลางคืนอยู่ดีก็เถอะ

 

We Say: ใช้ผสมกับดินในการเพาะกล้า เพาะเมล็ด เนื่องจากมีราคาถูกและอุดมด้วยธาตุคาร์บอน

 

 

ดินญี่ปุ่น (Akadama)

ดินญี่ปุ่นมีลักษณะพรุนและโปร่ง ทำให้เก็บความชื้นได้ดี เป็นแร่ธาตุที่เกิดจากภูเขาไฟ จึงอุดมไปด้วยธาตุอาหาร มีหลายขนาดให้เลือกใช้ สามารถนำมาโรยหน้ากระถางแทนกรวดหรือหินภูเขาไฟได้ นิยมนำมาปลูกบอนไซ แคคตัส หรือไม้อวบน้ำ เนื่องจากข้อดีของดินญี่ปุ่นคือเนื้อไม่แข็ง ทำให้ไม่บีบอัดโคนต้นไม้และได้ฟอร์มที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีดินญี่ปุ่นอีกประเภทเรียกว่า ดินคานุมะ (Kanuma) มีลักษณะคล้ายดินญี่ปุ่นแต่มีสีเหลือง มีน้ำหนักเบา อุ้มน้ำ ระบายน้ำได้ดีกว่า และยังมีแร่ธาตุสูง จึงช่วยเจริญเติบโตได้ดีกว่า แต่มีราคาสูงกว่าดินญี่ปุ่นทั่วไป

 

We Say: ใช้ลักษณะเดียวกับหินภูเขาไฟ เป็นตัวเลือกในการผสมดินแคคตัสหรือโรยหน้ากระถางต้นไม้ เพราะไม่บีบอัดโคนต้นไม้

 

 

เพอร์ไลต์ (Perlite) / เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite)

เพอร์ไลต์เกิดจากการนำแร่หินภูเขาไฟตามธรรมชาติมาเผาด้วยความร้อนสูงจนได้เป็นหินกรวดสีขาวขนาดเล็ก มีน้ำหนักเบา อุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี ช่วยกักเก็บความชื้นให้อยู่ในวัสดุปลูก มักนำมาใช้กับพืชที่ต้องการความโปร่ง มีหลายขนาด ใช้งานได้ไม่ต่างจากหินภูเขาไฟ ทั้งผสมดินและโรยหน้ากระถาง ส่วนเวอร์มิคูไลต์หน้าตาคล้ายๆ เพอร์ไลต์ แตกต่างกันที่สีและลักษณะเป็นชิ้นเล็กๆ แม้หน้าตาของเวอร์มิคูไลต์จะดูธรรมดา แต่อุดมไปด้วยธาตุอาหารสำคัญ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม สามารถนำไปปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ไปจนถึงผักไฮโดรโปนิกส์ ที่คนมักนำวัสดุปลูกทั้งสองชนิดมาผสมกัน (อัตราส่วนเพอร์ไลต์ 6 ต่อ เวอร์มิคูไลต์ 1) วัสดุปลูกทั้งสองชนิดไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ควรเปลี่ยนทุกๆ ปี เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการอุ้มน้ำและระบายอากาศเอาไว้เสมอ

 

We Say: ใช้ผสมกับวัสดุปลูกอื่นๆ ในการทำดินแคคตัส 

 

 

เม็ดดินเผา (Popper)

เม็ดดินเผาได้มาจากการเผาดินเหนียวที่อุณหภูมิสูงจนอัดแน่นกันเป็นเม็ด มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ระบายน้ำและอากาศได้ดี เพราะสร้างช่องว่างในวัสดุปลูกได้เยอะ และยังมีธาตุอาหารจำพวกไนโตรเจนและฟอสฟอรัสที่พืชต้องการอีกด้วย เม็ดดินเผามีหลายขนาด ตั้งแต่ก้อนเล็กๆ เท่ากรวดไปจนถึงเม็ดใหญ่เท่านิ้วหัวแม่มือ เป็นวัสดุปลูกที่นิยมนำมาใช้โรยหน้ากระถางต้นไม้เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้ล้ม หรือผสมในดินสำหรับไม้ดอกไม้ประดับ แถมยังช่วยกักเก็บความชื้นให้อยู่ในดินได้อีกด้วย

 

We Say: ใช้โรยหน้ากระถางต้นไม้หรือผสมในดินให้เกิดความโปร่ง ใช้ได้ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ไปจนถึงแคคตัส

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

FYI

เห็นได้ชัดว่าวัสดุปลูกหลายๆ ชนิดมีคุณสมบัติคล้ายๆ กันคือ อุ้มน้ำ ระบายน้ำได้ดี และมีธาตุอาหารในตัว ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรกับต้นไม้ของคุณทั้งนั้น ทั้งนี้ ก่อนจะซื้อต้นไม้อะไรควรถามพ่อค้าแม่ค้าให้ดีก่อนว่าใช้วัสดุปลูกประเภทไหน เลี้ยงมาอย่างไร กลางแดดหรือในร่ม ควรเปลี่ยนกระถางเมื่อไร ไปจนถึงวิธีการเปลี่ยนกระถางที่ถูกต้อง เพื่อให้ต้นไม้อยู่กับคุณได้นาน มากไปกว่านั้น หากได้แบ่งปันประสบการณ์ให้กับเพื่อนคนอื่นด้วยคงจะดีไม่น้อย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X