ต่างชาติเทขายหุ้น-บอนด์ไทย ฉุดเงินบาทอ่อนค่าแตะ 35.28 บาทต่อดอลลาร์ สูงสุดในรอบกว่า 5 ปีอีกครั้ง

ต่างชาติเทขายหุ้น-บอนด์ไทย ฉุดเงินบาทอ่อนค่าทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 5 ปีอีกครั้ง ข้อมูลชี้แบงก์ชาติเข้าแทรกแซงต่อเนื่อง นับจากต้นปีทุนสำรองไทยลดแล้วกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์

รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า ค่าเงินบาทในวันนี้ (17 มิถุนายน) อ่อนค่าสูงสุดไปแตะระดับ 35.28 บาทต่อดอลลาร์ ถือเป็นการอ่อนค่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2017 โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นแรงขายที่ต่อเนื่องในตลาดหุ้นและบอนด์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยวันนี้นักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,611 ล้านบาท ขณะที่ตลาดบอนด์มีการขายสุทธิ 1.46 หมื่นล้านบาท

“Sentiment ตลาดโลกตอนนี้ค่อนข้างแย่ การที่ Fed ไม่สามารถให้คำมั่นเรื่องดอกเบี้ยที่ชัดเจนได้ ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงหนักและเสี่ยงที่จะเข้าสู่สภาวะถดถอย ผู้เล่นในตลาดจึงเลือกที่จะลดความเสี่ยงในการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงเกิดแรงเทขายเพื่อกลับไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น” รุ่งกล่าว

อย่างไรก็ดี รุ่งยังประเมินกรอบค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าเอาไว้ที่ 35-35.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองว่าโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าหลุดจากแนวรับที่ 35.50 บาทยังมีไม่มาก เนื่องจากขณะนี้เงินดอลลาร์ได้แข็งค่ามาไกลมากแล้ว และเริ่มมีโมเมนตัมการฉุดรั้งจากการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในหลายประเทศ ทำให้เงินสกุลหลักอื่นๆ ยกเว้นเยนของญี่ปุ่นเริ่มแข็งค่าขึ้นมาเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) จะเข้าแทรกแซงไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าลงเร็วเกินไปจนกระทบต่อราคาสินค้านำเข้า ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อที่ล่าสุด ธปท. ได้ส่งสัญญาณให้ความสำคัญในการดูแลมากขึ้น

“หากนับจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยปรับลดลงไปแล้วประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 3 แสนล้านบาท ขณะที่การรายงานทุนสำรองล่าสุดในวันนี้ก็พบว่าปรับลดลงอีกราว 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งชัดเจนว่า ธปท. ได้เข้าแทรกแซงเพื่อชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท” รุ่งกล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ธปท. ระบุว่า ตัวเลขเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ณ วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 256,134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงต้นปีราว 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้าน อภิวัฒน์ น้าประทานสุข ผู้บริหารกลยุทธ์ด้านการลงทุน ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างบ่งชี้ชัดเจนว่าเงินบาทจะอยู่ในทิศทางอ่อนค่าต่อไป เนื่องจากส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างไทยและสหรัฐฯ จะทำให้เกิดเงินทุนไหลออก และถึงแม้ว่าไทยจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วก็เชื่อว่าบาทจะยังอ่อนค่าอยู่ เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ช้าลงจากการขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ไทยไม่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH