×

ของปลอมย่อมสู้ของแท้ไม่ได้! เอกสารภายในเผย Reels ของ Instagram ยิ่งสู้ยิ่งแพ้ TikTok

16.09.2022
  • LOADING...
IG Reels

การเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอแห่ง Meta ในการให้ Instagram ทุ่มกับฟีเจอร์ Reels เพื่อหวังดึงผู้ใช้จากคู่แข่งที่ร้ายกาจที่สุดในตอนนี้อย่าง TikTok ดูเหมือนจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก จากข้อมูลในเอกสารภายในของบริษัทเอง

 

โดยเอกสารดังกล่าวเป็นผลวิจัยภายในของ Meta ที่มีชื่อว่า ‘Creators x Reels State of the Union 2022’ ซึ่งเผยแพร่เป็นการภายในเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง The Wall Street Journal ได้ตรวจสอบและพบว่ามีข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับยอดเอ็นเกจเมนต์ของ Reels ที่ตกลงถึง 13.6% ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ และผู้ใช้งาน Reels ส่วนใหญ่นั้นแทบไม่มีเอ็นเกจเมนต์เลย


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


เรื่องนี้เป็นที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งสำหรับ Meta เนื่องจากในขณะนี้มีผู้ใช้งาน Reels รวมกัน 17.6 ล้านชั่วโมง ซึ่งคิดแล้วยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของจำนวนระยะเวลาผู้ใช้ TikTok ที่อยู่บนแพลตฟอร์มมากถึง 197.8 ล้านชั่วโมง

 

หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการที่ Instagram ไม่สามารถจะดึงเหล่าครีเอเตอร์ได้ โดยในสหรัฐอเมริกามีจำนวนครีเอเตอร์อยู่ที่ราว 11 ล้านคน เพียงแต่มีแค่ 2.3 ล้านคน หรือคิดเฉลี่ยต่อเดือนเป็น 20.7% ที่มีการโพสต์อยู่บน Reels

 

ในเรื่องนี้ เดวี นาราซิมฮาน (Devi Narasimhan) โฆษกของ Meta ได้ชี้แจงว่า ตัวเลขข้อมูลในการคิดเป็นรายชั่วโมงนั้นถือว่าล้าสมัยและไม่ได้เป็นภาพรวมของทั้งโลก แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขออกมา และยืนยันว่ายอดเอ็นเกจเมนต์ของ Reels นั้นเพิ่มสูงขึ้นเดือนต่อเดือน

 

“เรายังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่” นาราซิมฮานกล่าว “แต่ครีเอเตอร์และภาคธุรกิจเองพอมองเห็นสัญญาณบวกในผลลัพธ์ และการหารายได้ของเราเติบโตขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้มาก เพราะมีผู้คนที่ชมคอนเทนต์ สร้างคอนเทนต์ และมีการเชื่อมโยงกันผ่าน Reels มากขึ้นกว่าก่อน”

 

Meta ระบุว่า Reels ฟีเจอร์ที่มีการเปิดตัวในสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 นั้นกินเวลา 1 ใน 5 ของผู้ใช้งานบน Instagram และเวลาที่ผู้ใช้งาน Reels บน Instagram และ Facebook นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วงไตรมาสที่ 2

 

ทั้งนี้ แม้ว่าทางด้าน จัสติน โอซอฟสกี (Justin Osofsky) ซีโอโอของ Instagram จะระบุว่า มากกว่าครึ่งของคอนเทนต์ใน Reels จะถูกแชร์โดยผู้ใช้ผ่านการส่งข้อความส่วนตัว ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างจากผู้อื่น แต่จากเอกสารภายในระบุว่า วิดีโอเกือบ 1 ใน 3 ของ Reels นั้นถูกสร้างจากแพลตฟอร์มอื่น หรือพูดง่ายๆ คือเป็นวิดีโอที่ถูกนำมารีไซเคิลจากแพลตฟอร์มอื่นที่ได้รับความนิยมสูงกว่า ซึ่งส่วนใหญ่คือ TikTok

 

ปัญหาการขาดแคลนวิดีโอที่เป็นออริจินัลบน Reels คือปัญหาใหญ่ ซึ่ง Instagram พยายามดึงดูดเหล่าครีเอเตอร์ด้วยการอัดฉีดงบประมาณกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ครีเอเตอร์หันมาทำออริจินัลคอนเทนต์บน Reels ซึ่งเอกสารในเดือนสิงหาคมระบุว่ามีการจ่ายเงินไปแล้วกว่า 120 ล้านดอลลาร์

 

อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานบน Instagram นั้นมากกว่า 70% จะมีอายุ 25 ปีขึ้นไป ขณะที่ TikTok มีผู้ใช้งานที่อายุเกิน 25 ปีแค่ 56% ตามผลการวิจัยของ Insider Intelligence ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ใช้งานบน Instagram มีกำลังซื้อมากกว่า และเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดกว่าสำหรับบริษัทโฆษณา

 

เมื่อรวมกับการที่อยู่มานาน ทำให้ธุรกิจโฆษณาของ Meta ยังแข็งแกร่งและสร้างรายได้ต่อผู้ใช้เฉลี่ยมากกว่า TikTok โดยในปี 2021 Facebook และ Instagram ทำรายได้ในตลาดสหรัฐฯ มากกว่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดทั้งหมด 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า TikTok ที่สร้างรายได้ 3 พันล้านดอลลาร์อยู่มาก

 

แต่ทิศทางและสถานการณ์ในเวลานี้ ดูเหมือนยิ่งเวลาผ่านก็จะยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ Meta โดยเฉพาะการตัดสินใจทำเลียนแบบ TikTok อาจจะยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องในการจะเอาชนะใจชาวโซเชียลมีเดียทั่วโลกf

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising