Indiana Jones and the Dial of Destiny ผลงานลำดับที่ 5 ของแฟรนไชส์ภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยระดับตำนาน ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมการปรากฏตัวของ Harrison Ford ที่จะกลับมาสวมบทเป็น Indy หรือ Indiana Jones ที่ทุกคนคิดถึงอีกครั้ง โดยภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉาย 28 มิถุนายน 2023 ในโรงภาพยนตร์
โดยภายในตัวอย่างได้เผยให้เราเห็นถึงตัวละคร Indy (Harrison Ford) ในวัยเกษียณที่วางมือจากการผจญภัย และผันตัวมาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ดูเหมือนว่า Sallah (John Rhys-Davies) จะมาชักชวนให้เขามาร่วมทำภารกิจบางอย่าง ก่อนที่ภาพจะตัดไปยังเหตุการณ์ในอดีตของ Indy ที่ถูกตัวร้ายซึ่งรับบทโดย Mads Mikkelsen จับตัวไป
พร้อมทั้งการปรากฏตัวของ Helena (Phoebe Waller-Bridge) ลูกสาวทูนหัวของ Indy ซึ่งบทบาทของเธอน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Indy กลับมาออกผจญภัยอีกครั้ง นอกจากนี้ภายในตัวอย่างยังอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็กชันผจญภัยและมุกตลกขบขันที่แฟนๆ คุ้นเคย โดยเฉพาะดนตรีประกอบสุดไอคอนิกจากฝีมือของ John Williams ที่ทำให้ตัวภาพยนตร์น่าติดตามมากขึ้นอีกหลายเท่า
สำหรับ Indiana Jones and the Dial of Destiny จะได้ James Mangold จาก Logan (2017) และ Ford v Ferrari (2019) มานั่งแท่นผู้กำกับ ขณะที่ Steven Spielberg ผู้กำกับจาก Indiana Jones ทั้ง 4 ภาค จะมาดูแลในตำแหน่งเอ็กซ์คลูซีฟโปรดิวเซอร์ รวมถึง John Williams ที่จะกลับมารับหน้าที่ประพันธ์ดนตรีประกอบเช่นเดิม
และนอกจากชื่อของ Harrison Ford แล้ว ภาพยนตร์ยังได้ John Rhys-Davies กลับมาสวมบทเป็น Sallah อีกครั้ง พร้อมด้วยทีมนักแสดงชุดใหม่ นำโดย Phoebe Waller-Bridge จาก Solo: A Star Wars Story (2018), Mads Mikkelsen จาก Casino Royale (2006), Antonio Banderas จาก The Mask of Zorro (1998), Thomas Kretschmann จาก Westworld (2020), Boyd Holbrook จาก Logan, Shaunette Renée Wilson จาก Black Panther (1992) และ Toby Jones จาก Captain America: The First Avenger (2011)
โดย Indiana Jones and the Dial of Destiny จะถือเป็นครั้งสุดท้ายที่ Harrison Ford จะกลับมาสวมบทบาทเป็น Indy หลังจากที่เขาได้ออกผจญภัยล่าขุมทรัพย์ครั้งแรกใน Raiders of the Lost Ark (1981) ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไปว่า เรื่องราวการผจญภัยครั้งสุดท้ายของ Harrison Ford ในบท Indy จะปิดฉากลงอย่างไร
รับชมตัวอย่างได้ที่
อ้างอิง: