×

นักวิเคราะห์คาด การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียจะช่วยอุ้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์และชดเชยการชะลอตัวของจีนได้บางส่วน

31.07.2023
  • LOADING...
เศรษฐกิจอินเดีย

ทีมนักวิเคราะห์ของ ANZ ธนาคารชื่อดังในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียที่กำลังมีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัวของประชากร การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการบริโภคในประเทศ จะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประคองการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วง 10 ปีจากนี้ แทนที่เศรษฐกิจจีนที่เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัว

 

ปัจจุบันอินเดียได้แซงหน้าจีนขึ้นมาเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่อัตราความเป็นเมือง (Urbanization Rate) ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 35% เป็น 40% ภายในปี 2030 ซึ่งหมายความว่าจะเกิดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาลในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าอินเดียจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี 2030 อีกด้วย

 

“การเติบโตทางเศรษฐกิจจะทำให้อุปสงค์หรือความต้องการใช้สินค้าโภคภัณฑ์ของอินเดีย เช่น น้ำมันดิบ ถ่านหิน ก๊าซ ทองแดง อะลูมิเนียม และเหล็ก เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030” ข้อมูลของ ANZ ระบุ

 

ในทางกลับกัน ทีมนักวิเคราะห์ของ ANZ ได้ประเมินภาพของเศรษฐกิจจีนในระยะต่อจากนี้ว่า การเติบโตจะเริ่มชะลอตัวลงจน GDP ลดลงเหลือ 3.5% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ ซึ่งนั้นหมายถึงอุปสงค์ต่อสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่จะขยายตัวได้เพียง 1-3% ต่อปี

 

ANZ ระบุว่า ปัจจุบันจีนถือเป็นผู้นำเข้าแร่โลหะทางอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดถึง 50% การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนจึงอาจส่งผลต่อราคาของแร่เหล่านี้ เพราะแม้อินเดียจะมีแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งมีความจำเป็นต้องนำเข้าแร่โลหะมากขึ้น แต่ปริมาณก็ยังไม่เพียงพอจะชดเชยอุปสงค์ของจีนได้

 

อย่างไรก็ดี กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่เชื่อว่าอุปสงค์จากอินเดียจะเข้ามาแทนที่จีนได้มากกว่าคือ น้ำมันและถ่านหิน โดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราการใช้น้ำมันและถ่านหินของอินเดียจะเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 66% และ 60% ของจีนในปัจจุบันภายในปี 2030

 

“แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่จีนจะยังมีสถานะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะในฐานะผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ ขณะที่เศรษฐกิจของอินเดียจะเข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลต่อโลกมากขึ้นในอนาคต” ANZ ระบุ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising