วันนี้ (26 กันยายน) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังคงประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจนี้ คนไทยเชื้อสายจีนจะมีการจุดธูปไหว้เจ้าหรือประกอบพิธีกรรมตามศาลเจ้า รวมถึงการไหว้พระขอพรที่ต้องจุดธูปเป็นจำนวนมาก
พญ.พรรณพิมล กล่าวด้วยว่า ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่งความห่วงใยถึงประชาชนในพื้นที่ โดยขอความร่วมมือเปลี่ยนมาใช้ธูปที่มีขนาดเล็กหรือสั้นลง เพื่อลดการเพิ่มฝุ่น ซึ่งศาสนสถานเมื่อเสร็จพิธีการ ควรดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น และต้องมั่นใจว่าดับสนิท
นอกจากนี้ควรทำความสะอาดบริเวณกระถางธูปเป็นประจำ เพื่อลดฝุ่นละอองจากควันธูปที่ตกค้าง รวมถึงหลีกเลี่ยงการจุดธูปในบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องแอร์ ห้องที่ไม่มีประตูหน้าต่าง เพราะหากสูดดมเข้าไป อาจทำให้ระคายเคืองตา และส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ อาการที่พบบ่อยคือ ตาแห้ง แสบตา น้ำตาไหล จาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก และอาจเกิดอาการปวดศีรษะ เป็นลมหมดสติได้ หากสูดดมเป็นเวลานานๆ
“ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังคงต้องติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างใกล้ชิดจากเฟซบุ๊กเพจ ‘คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5’ สำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ และหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสควัน และขอความร่วมมือสถานพยาบาล ศูนย์เด็กเล็ก ควรจัดห้องสะอาด ปลอดฝุ่น (Clean Room) เพื่อป้องกันและลดสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่แพทย์ให้คำแนะนำ
“สำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่มีปริมาณค่าฝุ่นสูง ควรสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูก เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ และคอยสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: