วันนี้ (26 ธันวาคม) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) ในฐานะโฆษก สตม. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวปรากฏในสำนักข่าวต่างประเทศ และมีข้อซักถามจากสถานเอกอัครราชทูตไทยหลายแห่ง เกี่ยวกับประเด็นที่มีการอ้างข้อมูลว่าสถานทูตกัมพูชาในต่างประเทศได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ในประเทศไทยเพื่อเดินทางต่อไปยังกัมพูชา ให้ระมัดระวังการคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทย
พล.ต.ต.เชิงรณ ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นความเท็จและไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด สำหรับผู้โดยสารชาวต่างชาติที่เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติของไทย โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่องบิน (Transfer/Transit) ไปยังประเทศกัมพูชานั้น ถือเป็นผู้โดยสารที่ยังไม่ได้เดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรไทยตามกฎหมาย
โดยผู้โดยสารกลุ่มนี้จะเดินเพื่อไปต่อเครื่องภายในเขตพื้นที่หวงห้ามเฉพาะของผู้โดยสารขาออก (Air side) เท่านั้น ส่งผลให้ ไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แต่อย่างใด
”ดังนั้น การกล่าวอ้างว่าชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย คุกคาม จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นการจงใจปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างกระแสเชิงลบ หวังทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งขณะนี้กำลังคึกคักอย่างมาก โดยมียอดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยสูงถึงวันละ 75,000 – 80,000 คน” โฆษก สตม. กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เชิงรณ ยังได้เน้นย้ำว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
โดยทาง พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้มีข้อสั่งการกำชับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะด่านท่าอากาศยาน ให้ระดมกำลังพลและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกในการตรวจหนังสือเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและรวดเร็ว
