IGNIV Bangkok ร้านอาหารแรกนอกสวิตเซอร์แลนด์จากเชฟ Andreas Caminada ชูคอนเซปต์ไฟน์ไดนิ่งแบบแชริ่ง

เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เราได้ทราบข่าวจากโรงแรม St. Regis Bangkok ว่าทางโรงแรมจะปรับเปลี่ยนห้องอาหาร Jojo บริเวณชั้นล็อบบี้ของโรงแรมใหม่ทั้งหมด เพื่อต้อนรับการมาถึงของร้านอาหารจาก เชฟแอนเดรียส คามินาดา ของร้านอาหารดีกรีมิชลิน 3 ดาว Schloss Schauenstein จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งหลังจากใช้เวลาร่วมปีในการปรับปรุงพื้นที่และออกแบบเมนู IGNIV Bangkok by Andreas Caminada เปิดให้บริการแล้วในเดือนตุลาคม 2563 สร้างสีสันให้กับซีนอาหารไฟน์ไดนิ่งในบ้านเราเป็นอย่างมากจนหากคุณเป็นคนรักการกินดื่ม ไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ความน่าสนใจแรกที่เราอยากเล่าให้ฟังคือตัวเชฟแอนเดรียสเอง เชฟแอนเดรียสคือเชฟผู้มากประสบการณ์เป็นเชฟเซเลบริตี้คนดังคนหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นั่นก็เพราะความสามารถที่พาให้เขาประสบความสำเร็จในวงการอาหารอย่างรวดเร็ว เชฟแอนเดรียสเริ่มต้นอาชีพในวงการอาหารหลังจากที่จบการศึกษาในปี 1996 กับโปรเจกต์ที่เขาเข้ามารีโนเวต Schauenstein Castle ใหม่ เปิดเป็นร้านอาหารและห้องพักนาม Schloss Schauenstein ซึ่งจากปี 2003 ที่เปิดให้บริการ ร้านก็ได้รับรางวัลดาวมิชลิน 2 ดวงในปี 2008 ก่อนขยับมาเป็น 3 ดวงในปี 2011 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 34 ปี

หลังจากนั้น IGNIV by Andreas Caminada สาขาแรกก็ได้เกิดขึ้นในปี 2015 ณ Bad Ragaz และสาขาที่ 2 ที่ St. Mortiz ในปีถัดมา ความน่าสนใจของ IGNIV คือการครีเอตประสบการณ์ที่แตกต่างจาก Schloss Schauenstein ด้วยการผสมผสานระหว่างมาตรฐานอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่งเข้ากับแคชวลไดนิ่ง ผ่านการเสิร์ฟอาหารแบบแชริ่ง ซึ่งคอนเซปต์นั้นเป็นเอกลักษณ์ของ IGNIV เป็นที่เรียบร้อย และถูกการันตีด้วยรางวันดาวมิชลิน 1 ดวงทั้งสองสาขา

The Vibes:

เกริ่นเรื่องของเชฟกันเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้ตัดภาพกลับมาที่ประเทศไทยกันบ้าง ห้องอาหารโจโจ้ถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมดผ่านฝีมือของดีไซเนอร์ชาวสเปน แพทริเซีย อูร์กิโอลา นักออกแบบผู้ออกแบบให้ IGNIV ทั้งสองสาขาก่อนหน้านี้ ซึ่งคงคาแรกเตอร์หลักคือ การสร้างความอบอุ่นผ่านวัสดุหลักเป็นไม้และโซฟาขนาดใหญ่ที่รองรับลูกค้าในลักษณะคล้ายกับรังนก หรือก็คือความหมายในภาษาไทยของชื่อ IGNIV นั่นเอง นอกเหนือจากการตกแต่งภาพใหญ่ ขอชื่นชมการเลือกเครื่องใช้ นอกจากหมอนผ้าไหมจาก Jim Thompson แล้ว จานชาม แก้วน้ำ รวมถึงกาน้ำชาเซรามิก ก็เลือกได้น่ารักมากจนเราคิดว่าจะต้องมีลูกค้าแอบขอซื้อบ้างแน่ๆ

The Dishes:

คอนเซปต์หลักของอาหารยึดเอกลักษณ์เช่นเดียวกับ IGNIV สองสาขาแรก คือ ไฟน์ไดนิ่งที่เสิร์ฟแบบแชริ่ง สำหรับสาขากรุงเทพฯ นั้น เราได้ เชฟเดวิด ฮาร์ตวิก เชฟผู้ที่ผ่านการทำงานโดยตรงกับเชฟแอนเดรียสทั้งที่ Schloss Schauenstein และ IGNIV by Andreas Caminada ในสวิตเซอร์แลนด์มาก่อน มายืนเป็นเฮดเชฟด้วยตัวเอง คู่กับ เชฟอาเน รีห์น ในการรับตำแหน่งผู้ช่วยเชฟและเชฟขนมหวาน ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองได้นำเซ็ตเมนูจากสวิตเซอร์แลนด์มาเสิร์ฟในชื่อ The Peak ในเดือนธันวาคม 2019 เปรียบเหมือนเป็นการแนะนำตัวก่อนล่วงหน้าให้นักชิมได้เตรียมพร้อมกับ IGNIV เวอร์ชันสมบูรณ์นั่นเอง

มื้อเย็นขนาดของ IGNIV เสิร์ฟไล่เรียงจาก Snacks อาหารเรียกน้ำย่อย ซุป เมนคอร์ส และขนมหวาน ซึ่งทั้งหมดประกอบไปด้วยหลายๆ ชนิดที่จะเสิร์ฟมาในทีเดียวกันตามพอร์ชันของจำนวนลูกค้าต่อ 1 โต๊ะ เราเริ่มจากของว่าง 4 ชนิด อย่าง Banana Shimp Tartelette ทาร์ตหอมเนยสอดไส้พอดีคำ ทานกับโยเกิร์ตเอสพูมารสเปรี้ยวกำลังดี ตามด้วย Papaya Roll ที่เชฟได้แรงบันดาลใจจากอาหารไทย Meckerel Wasabi เสิร์ฟมาในเปลือกแป้งคล้ายมาการอง หอมสมุนไพรสด จบด้วยฟัวกราส์ อัลมอนด์ ชิ้นพอดีคำ

(บนซ้าย) Beef Tartare (บนขวา) Sea Bass Ceviche (ล่างซ้าย) สลัดกิมจิ (ล่างขวา) Hamachi Celery

คอนเซปต์อีกอย่างที่ซ่อนอยู่ในอาหารคือ การผสมผสานวัตถุดิบและรสชาติความเป็นเอเชียเข้าไปในแต่ละจาน เชฟแอนเดรียสอธิบายให้ฟังว่า หลายคนอาจจะคิดว่าอาหารของ IGNIV จะเป็นสไตล์ยุโรปเช่นเดียวกับที่เสิร์ฟในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งพาร์ตหนึ่งใช่ แต่มากกว่านั้นคือในฐานะที่ IGNIV Bangkok คือร้านแรกนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาอยากออกแบบอาหารที่ผสมความเป็นเอเชียลงไปด้วย และไม่แน่ว่าจานเหล่านี้อาจถูกนำไปเสิร์ฟที่สาขาในสวิตเซอร์แลนด์ด้วย อย่างจานสลัดกิมจิ (ภาพซ้ายล่าง) เป็นต้น

Main Course (ซ้าย) Pork BBQ Plum (ขวา) Cauliflower Truffle Glaze Brown Butter

หลังจากสตาร์ทเตอร์ เชฟเสิร์ฟซุป Languistine ก่อนเข้าเมนคอร์สในวันนี้ ได้แก่ Short Ribs ทานกับซอสซัลซาเขียว และจานหมูบาร์บีคิวซอสพลัม

ต้องบอกว่าของหวานออกแบบมาได้จริงจังไม่แพ้ของคาว ในคอร์สเราจะได้ของหวานทั้งหมด 5 ชนิด ซึ่งเท่านั้นก็ยังไม่หมด เพราะกิมมิกเล็กๆ ของที่ IGNIV คือ Candy Store โต๊ะขนาดใหญ่ที่วางของหวานไว้จำนวนมาก เราจะได้เดินผ่านโต๊ะนี้ตั้งแต่แรกก่อนเข้าร้านแล้ว ซึ่งเมื่อเสิร์ฟของหวานหลักเป็นที่เรียบร้อย คุณจะได้รับกล่องขนมเล็กๆ ที่สามารถเดินมาหยิบขนมจาก Store แห่งนี้เป็นที่ระลึกกลับไปได้อีก

IGNIV Bangkok เปิดให้บริการวันพุธ-อาทิตย์ มื้อกลางวันเวลา 12.00-15.00 น. ราคา 1,900 บาท และมื้อเย็นเวลา 18.00-23.00 น. ราคา 3,800 บาท