Mercer บริษัทบริหารสินทรัพย์จากสหรัฐฯ เผยแพร่รายงาน Mercer CFA Institute Global Pension Index 2022 ที่ได้จัดอันดับระบบบำนาญของแต่ละประเทศในปี 2022 ซึ่งเป็นครั้งที่ 14 แล้ว โดยจากการสำรวจใน 44 ชาติทั่วโลก พบว่า ไอซ์แลนด์ ครองแชมป์ไปด้วยคะแนน 84.7 คะแนนภาพรวมอยู่ในเกรด A
ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ในเรื่องของความเป็นเลิศด้านผลประโยชน์ในระบบบำนาญของภาครัฐและเอกชนที่มีความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี และมีแผนงานที่ครอบคลุมไปถึงอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘สวิตเซอร์แลนด์’ รั้งอันดับ 1 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกปี 2022 ส่วน ‘ไทย’ อยู่อันดับที่ 28 ด้วย 47.7 คะแนน
- ‘นิวยอร์ก’ ยังรั้งเบอร์ 1 เมืองศูนย์กลางการเงินโลก สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงขึ้นอันดับ 3 ส่วน ‘ไทย’ ตกไปอยู่ที่ 61
- ‘ญี่ปุ่น’ แชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลปี 2022 เที่ยวได้ 193 จุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะไทยตกไปอยู่อันดับที่ 70
ขณะที่อันดับ 2 ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ 84.6 คะแนน เกรด A, อันดับ 3 เดนมาร์ก 82.0 คะแนน เกรด A, อันดับ 4 อิสราเอล 79.8 คะแนน เกรด B+ และอันดับ 6 ฟินแลนด์ 77.2 คะแนน เกรด B+
ด้านประเทศในกลุ่มรั้งท้าย อันดับ 44 ไทย 41.7 คะแนน เกรด D, อันดับ 43 ฟิลิปปินส์ 42 คะแนน เกรด D, อันดับ 42 อาร์เจนตินา 43.3 คะแนน เกรด D, อันดับ 41 อินเดีย 44.4 คะแนน เกรด D และอันดับ 40 ตุรกี 45.3 คะแนน เกรด D
นอกจากนี้ Mercer ยังได้ให้คำแนะนำกับประเทศไทยที่อยู่อันดับสุดท้ายว่า ควรเพิ่มเติมและปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับระบบบำนาญ 4 ข้อ ดังนี้
- เพิ่มความครอบคลุมของพนักงานในโครงการบำเหน็จบำนาญ โดยจะเป็นการเพิ่มระดับของเงินสมทบและทรัพย์สิน
- เพิ่มเพดานขั้นต่ำในการสนับสนุนผู้สูงอายุกลุ่มที่ยากจนที่สุด
- ผลประโยชน์การเกษียณจากการจัดการเงินบำนาญส่วนตัวจะต้องนำมาเป็นกระแสรายได้
- ปรับปรุงข้อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ในระบบของสำนักงานประกันสังคม
อย่างไรก็ตาม ดัชนีชี้วัดระบบบำนาญระดับโลก (Global Pension Index) ที่นำมาใช้จัดอันดับประเทศต่างๆ จะถูกคิดจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1. ความเหมาะสม อย่างเงินที่เพียงพอต่อการครองชีพ น้ำหนักคะแนน 40% 2. ความยั่งยืน ครอบคลุมคนหมู่มาก และปริมาณกองทุนบำนาญเพียงพอ น้ำหนักคะแนน 35% และ 3. ความมั่นคง ในส่วนของการบริหารจัดการกองทุนบำนาญ น้ำหนักคะแนน 25%
อนึ่ง Mercer ระบุว่า การวางแผนทางการเงินให้ดีที่สุดสำหรับการเกษียณเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งกระจายเงินออมเพื่อการเกษียณ และกระจายความเสี่ยงสำหรับแผนการลงทุนต่างๆ และผู้ที่สนใจลงทุน ส่วนผู้กำหนดนโยบายบำนาญก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าโครงการเกษียณอายุได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี
อ้างอิง: