×
SCB Omnibus Fund 2024

นักวิเคราะห์เตือน ‘เฮอริเคนเอียน’ ดันราคาอาหารทั่วสหรัฐฯ แพงขึ้น เผยราคาน้ำส้มคั้นในตลาด Futures ขยับขึ้นมากกว่า 5% แล้ว

29.09.2022
  • LOADING...
เฮอริเคนเอียน

สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาคาดการณ์ว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติล่าสุดอย่าง ‘เฮอริเคนเอียน’ จะมีผลกระทบต่อราคาอาหารทั่วสหรัฐฯ โดยอิทธิพลของเฮอริเคนทำให้น้ำส้มในตลาด Futures ปรับตัวแพงขึ้น และทำให้ปุ๋ยมีแนวโน้มปรับตัวสูงเช่นกัน

 

ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (28 กันยายน) ราคาสัญญาซื้อ-ขายน้ำส้มคั้นแช่แข็งแตะระดับ 1.92 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% จากวันอังคาร ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงเล็กน้อย ขณะที่น้ำส้มในตลาด Futures ปีนี้เพิ่มขึ้นแล้วเกือบ 30%  


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ทั้งนี้ ฟลอริดาเป็นผู้ผลิตส้มชั้นนำ รวมทั้งส้มและเกรปฟรุต และเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรุนแรง โดย Maxar Technologies ผู้ให้บริการภาพถ่ายดาวเทียมระบุว่า อย่างน้อย 75% ของพื้นที่เพาะปลูกส้มในฟลอริดา จะตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากฝนตกหนักในช่วง 36 ชั่วโมงข้างหน้า

 

Maxar ยังชี้ว่า พายุยังมาถึงในช่วงเวลาใกล้เคียงกับฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้คาดว่าผลส้มจะร่วงลงจากต้นก่อนที่เกษตรกรจะได้เก็บเกี่ยว ส่งผลให้จำนวนการผลิตลดลง โดยก่อนหน้านี้ผลผลิตส้มปีนี้มีแนวโน้มลดลงอยู่แล้วเพราะภัยแล้ง 

 

ในเดือนกรกฎาคม กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าการผลิตส้มของสหรัฐฯ จะลดลง 13% ในปี 2021/2022 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 55 ปี เนื่องจากภัยแล้งในแคลิฟอร์เนีย บวกกับการปลูกส้มในฟลอริดาเผชิญกับกรีนซิตรัส ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ต้นไม้ออกผลน้อยและมีขนาดเล็กกว่าเดิม ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำผลไม้ต้องใช้ส้มต่อขวดมากขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้น

 

โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนสิงหาคม ราคาส้มและส้มเขียวหวานพุ่งขึ้น 14.4% ขณะที่ราคาน้ำผลไม้และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ เพิ่มขึ้น 13.1% ในช่วงเวลานั้น

 

ขณะเดียวกันหลายฝ่ายคาดว่าเฮอริเคนเอียนจะทำให้ราคาปุ๋ยฟอสเฟตแพงขึ้น เนื่องจากพายุเคลื่อนผ่านโรงงานของ Mosaic ผู้ผลิตฟอสเฟตรายใหญ่ของสหรัฐฯ 

 

อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของบริษัทยืนยันว่า บริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อปกป้องสวัสดิการของพนักงาน โรงงาน สิ่งปลูกสร้าง และลูกค้า 

 

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสภาพอากาศสุดขั้วเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาอาหารปรับตัวพุ่งสูงขึ้น โดยความแห้งแล้งทำให้เกษตรกรชาวอเมริกันต้องขายฝูงวัวและทำลายพืชผลทางการเกษตรของตนเอง ขณะที่น้ำท่วมได้ทำลายพืชผลและปศุสัตว์เสียหายอย่างหนัก 

 

สำหรับเฮอริเคนลูกนี้ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เป็นภัยพิบัติที่มาในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญกับราคาอาหารที่แพงที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว โดยค่าใช้จ่ายด้านอาหารในปีนี้พุ่งขึ้น 11.4% ตลอดเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นประจำปีที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 1979 ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงาน โดยในช่วงเวลานั้นราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันตามร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น 13.5% และราคาเมนูร้านอาหารเพิ่มขึ้น 8% 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising