×

รมว.พม เตรียมลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จัดการปมเจ้าหน้าที่ยุ่งเกี่ยวคดีค้ามนุษย์ สั่งย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว 3 ราย

โดย THE STANDARD TEAM
09.05.2022
  • LOADING...
คดีค้ามนุษย์

วันนี้ (9 พฤษภาคม) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย พัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) แถลงข่าวความคืบหน้าจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ขยายผลการจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ที่มีการขายบริการทางเพศของเยาวชนหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีการแจ้งความให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ 

 

จุติกล่าวว่า วันนี้ได้รับรายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ซึ่งในรายงานนั้นยังขาดรายละเอียดบ้าง จึงมอบหมายให้ปลัด พม. เข้าไปเป็นคณะทำงานสอบสวนเรื่องนี้โดยเฉพาะ และรีบรายงานให้ทราบโดยด่วนที่สุด และตัดสินใจเดินทางไปจังหวัดสุราษฏร์ธานี เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชน หน่วยงานที่ร่วมทำงานด้วย ในวันพุธนี้ (11 พฤษภาคม)

 

ทั้งนี้ กำหนดให้คณะทำงานช่วยเหลือและแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่ปลัด พม. เป็นประธานจะต้องติดตามและรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกวัน ซึ่งวันนี้ทราบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามารายงานตัวแล้ว 

 

ส่วนตัวอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ความคุ้มครองเด็ก สตรี ไม่ใช่เฉพาะแค่เคสนี้ แต่รวมถึงเคสอื่นทั่วไป ไม่ให้มีการล่วงละเมิด และต้องปรับการทำงานบูรณาการให้กระชับมากขึ้น โดยขอยืนยันว่าเราจะร่วมทำงานกับตำรวจ เพื่อให้ได้ข้อมูลและการแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างถอนรากถอนโคน    

 

จุติกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทราบว่าผู้ที่อยู่ในโครงการคุ้มครองพยานอยู่ในความดูแลของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ส่วนผู้ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้เข้าไปดูแล ทาง พม. จะนำออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้ถูกกดดันจากฝ่ายใดทั้งสิ้น

 

สำหรับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จุติระบุว่า เป็นภารกิจที่ต้องร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น พม. เป็นผู้ที่เริ่มต้น โดยไปแจ้งตำรวจ และได้เชิญสหวิชาชีพมาร่วมประเมินกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อประเมินแล้วเห็นว่าเป็นความเสี่ยง ความเป็นไปได้ที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์จึงไปแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดี ซึ่งจะเห็นได้ว่า พม. เป็นผู้เริ่มเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนพฤษศจิกายน 2564 และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนผู้เสียหายเรื่อยมา ภายหลังจากสอบสวนแล้วนั้น ผู้เสียหายมีจำนวนเพิ่มขึ้น และอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักและครอบครัวในพื้นที่

 

สำหรับประเด็นที่อยากให้ประชาชนเข้าใจคือ ขณะนี้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเด็กที่อยู่ในความดูแลของ พม. ถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้นไม่ใช่ แต่เป็นคดีที่เริ่มจากการล่วงละเมิดทางเพศและค่อยกลายเป็นเรื่องค้ามนุษย์ และประการต่อมา มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของ พม. ที่ดูแลนั้นไปกดดันหรือทำร้ายเด็กที่เป็นพยาน ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และจะพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป ส่วนข้อเท็จจริงนั้น คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงจะเข้าไปดูแล โดยในที่ประชุมได้สอบถามไปแล้วว่า มีการตีเด็กจริงหรือไม่ ตามข้อเท็จจริงที่ได้รับรายงานคือมีการตีเด็กจริง แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องของคดี แต่เป็นเรื่องวินัยของบ้านพักเด็กและเยาวชน ซึ่งเด็กมีทั้งหมด 11 คนที่ถูกตี และหนึ่งในนั้นเป็นพยาน แต่จะไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ผู้ดำเนินคดีนั้นถูกกดดันหรือถูกบีบบังคับอย่างไรบ้างกับผู้เสียหาย 

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า พม. พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และไม่กล้าถามใครเพราะกลัวว่าจะเป็นการเข้าไปแทรกแซงการทำงาน แต่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางตำรวจในการสืบสวนเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งจะขยายผลไปถึงใครนั้นจะไม่มีการละเว้น ในขณะเดียวกัน อยากจะขอว่า ถ้าไม่กระทบผลคดีและสามารถให้ข้อมูลในการสอบสวนเชิงลึกได้มากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนทางข้อเท็จจริงและวินัย อยากให้ตำรวจได้แนะนำผ่านระบบราชการ และต้องพูดแบบเปิดเผย จะไม่ทำจดหมายแบบลับๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจกับทางตำรวจ แต่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือถ้าเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดี ซึ่งอยากได้เพื่อมาสอบข้อเท็จจริงในการยืนยันว่า สิ่งที่ตำรวจทราบกับสิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงไป มีข้อขัดแย้งหรือเหมือนกันอะไรบ้าง

 

โดยขณะนี้ ได้มีคำสั่งของ พม. เมื่อวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคมให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนที่เกี่ยวข้องย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐานหรือกดดันใคร และอยากให้รอผลสอบข้อเท็จจริงทีเดียว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising