รองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เปิดเผยระหว่างเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน พร้อมเข้าพบเพื่อพูดคุยกับ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหัวเว่ยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยพร้อมจะต้อนรับการก่อสร้างโครงข่าย 5G, อีโคซิสเต็มที่เกี่ยวข้องและปัญญาประดิษฐ์ (5G+AI Eco-Innovation) ในประเทศไทย
“รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ 5G และเราหวังว่าจะสามารถนำ 5G มาสู่อาเซียนเป็นแห่งแรกได้ภายในปีหน้า และประเทศไทยก็มุ่งหวังที่จะประสบความสำเร็จในการเข้าสู่โลกแห่งความอัจฉริยะล้ำสมัยแห่งยุค 5G และเรามุ่งหวังที่จะมีการขยายความร่วมมือของหัวเว่ยในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง” ดร.สมคิด กล่าว
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเครือข่ายด้านโทรคมนาคม คาดหวังว่าหัวเว่ยจะขยายการลงทุนในประเทศไทยในด้านอื่นๆ เช่น 5G อีโคซิสเต็ม ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการอบรมพัฒนาองค์ความรู้ให้กับบุคลากร เพื่อส่งเสริมการสร้างอีโคซิสเต็มทางอุตสาหกรรมที่พร้อมพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรมเพื่อสังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ด้านหัวเว่ยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยี 5G จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้าน AI ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนไปข้างหน้าของประเทศไทยให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าประเทศอื่นได้ โดย 5G คลาวด์ และเอไอ จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งหัวเว่ยเคารพในความเป็นอธิปไตยด้านดิจิทัลของประเทศไทยในการส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี บ่มเพาะให้เกิดอีโคซิสเต็มแห่งนวัตกรรม ผ่านแพลตฟอร์มระบบเปิดของหัวเว่ย เพื่อร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มของภาคอุตสาหกรรม เพื่อสังคมอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออย่างไร้ที่ติในอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และหัวเว่ยยังได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ ‘เสริมสร้างและบ่มเพาะแรงงานดิจิทัลในประเทศไทย เพื่อสังคมที่ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน’ ร่วมกันอีกด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
