×

ไวรัสโคโรนา กระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน เงินเข้าประเทศและ GDP เสียหายเท่าไร

28.01.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ไทยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนสูงถึง 7,665,901 ราย ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 49,800 บาท
  • นริศ สถาผลเดชา เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี คาดว่า ไวรัสโคโรนาจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมหายไปราว 2.7 ล้านคน ส่งผลให้เม็ดเงินหายไปราว 1.5 แสนล้านบาท เทียบเท่า 1% ของ GDP 
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมองว่า ผลพวงวิกฤตโรคระบาดนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป 2 ล้านคน โดยจะเร่งเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไทยให้รัฐบาลพิจารณา

ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ได้สร้างความวิตกให้กับผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทย หลังล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงความคืบหน้าเพิ่มเติมเมื่อเช้าวันนี้ (28 มกราคม) แล้วว่า พบผู้ติดเชื้อดังกล่าวเพิ่มอีก 6 รายในประเทศไทย (ทั้งหมดเป็นชาวจีน) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในไทยเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย

 

ในอีกมิติหนึ่ง ประเทศไทยยังถือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวจีน ดังนั้นเมื่อเกิดวิกฤตโรคระบาดโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ที่แพร่ระบาดจากจีนนี้ขึ้น จึงเป็นเรื่องยากพอสมควรในการหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเนื่องด้านเม็ดเงินและเศรษฐกิจของประเทศ

 

 

แต่ละปีประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนกี่คน

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ไทยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนสูงถึง 7,665,901 ราย สูงที่สุดในบรรดาทุกประเทศ (นักท่องเที่ยวจากอาเซียน 6,889,245 ราย และนักท่องเที่ยวจากยุโรป 4,395,494 ราย) 

 

คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 29% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว หมายความว่าในทุกๆ เดือนจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ยราว 958,000 คน 

 

ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ได้สร้างเม็ดเงินสะพัดให้กับประเทศไทยรวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 381,874 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 30% จากเม็ดเงินที่ประเทศไทยได้จากนักท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วงมกราคมถึงสิงหาคม 2562 ที่ 1,289,626 ล้านบาท เท่ากับว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจีน 1 คนจะอยู่ที่ประมาณ 49,800 บาท

 

ดังนั้นการที่ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่มีต้นทางการแพร่ระบาดจากจีน จึงมีแนวโน้มที่ตัวเลขดังกล่าวอาจจะปรับลดลง โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป

 

 

รายได้จากการท่องเที่ยวสูญเกือบ 1.5 แสนล้านบาท GDP อาจโตเหลือ 2.5%

จากผลกระทบวิกฤตโรคแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้น THE STANDARD ติดต่อสอบถามไปยัง นริศ สถาผลเดชา เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics โดยได้ความเห็นที่น่าสนใจว่า

 

กรณีการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา หากมีความรุนแรงใกล้เคียงกับ ‘โรคซาร์ส’ ที่เคยระบาดเมื่อปี 2546-2547 อาจจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงประมาณ 7% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเดือนละราว 1 ล้านคนจะหายไปถึง 90% ในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาในไตรมาส 3 หากเหตุการณ์คลี่คลาย 

 

เบื้องต้นคาดการณ์ว่า ‘จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม’ จะหายไปราว 2.7 ล้านคนในปี 2563 ที่มีอยู่ 40.2 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินหายไปราว 150,000 ล้านบาท เทียบเท่าสัดส่วน 1% ของ GDP 

 

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนริศคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2563 GDP จะเติบโตลดลงเหลือ 2.5% จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ระดับ 2.7% ทั้งนี้อาจมีการประเมินในภาพรวมอีกครั้ง

 

 

หอการค้าไทยประเมินภาพรวม ชี้เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจขยายตัวต่ำกว่า 2%

ด้าน ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินภาพรวมการคาดการณ์ผลกระทบเศรษฐกิจโดยรวมจากไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ไว้แบบคร่าวๆ ว่า น่าจะสร้างผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยว ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มสายการบิน โรงแรม และร้านค้าไม่ต่ำกว่าเดือนละประมาณ 5 หมื่นล้านบาท 

 

ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังส่อเค้ายืดเยื้อเป็นระยะเวลา 2 เดือน ภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็น่าจะได้รับความเสียหายคิดเป็นเม็ดเงินราว 1 แสนล้านบาท และอาจจะทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้ลดลงที่ 0.7% 

 

นั่นหมายความว่าเมื่อวิเคราะห์รวมจากผลกระทบและวิกฤตในด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ด้วย ธนวรรธน์ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะขยายตัวต่ำกว่า 2% 

 

อย่างไรก็ดี ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะแถลงผลการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่และฝุ่นพิษ PM2.5 โดยละเอียดอีกครั้งในวันพุธที่ 29 มกราคมนี้

 

(หมายเหตุ: ใช้กรอบการคำนวณเบื้องต้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยราว 900,000-1,000,000 คนต่อเดือน *ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่ 50,000 บาท)

 

ภาพ: Photo by Anusak Laowilas / NurPhoto via Getty Images

 

ททท. คาดนักท่องเที่ยวจีนหาย 2 ล้านคน เร่งหาตลาดทดแทน ชงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเสนอรัฐบาล

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยในระหว่างเข้าประชุมประเด็น ‘มาตรการรองรับสถานการณ์ไวรัสอู่ฮั่น’ วันนี้ว่า โรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่อาจจะส่งผลให้ ‘นักท่องเที่ยวจากจีน’ มีแนวโน้มหายไปราว 2 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอาจจะต้องเริ่มมองหาตลาดนักท่องเที่ยวทดแทนจากประเทศอื่นมาเพิ่มให้ได้ในจำนวนใกล้เคียงกัน

 

เช่นเดียวกับการกระตุ้นตลาดในประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปด้วยกันเพื่อรอคอยเวลาให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางกลับมา รวมถึงการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพที่อาจจะมีผลต่อการสร้างความมั่นใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากนับจนถึงปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตในประเทศไทย 

 

แนวทางต่อจากนี้ ยุทธศักดิ์ย้ำว่า ทาง ททท. จะไม่ล้มแผนการทำการตลาดกับนักท่องเที่ยวจีน แต่จะเปลี่ยนมาใช้วิธีการสื่อสารเพื่อให้กำลังใจกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนแทน เนื่องจากแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศมากถึง 120 ล้านคน ไม่ว่าอย่างไรตนก็เชื่อว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเดินทางกลับมาไทยในอนาคตแน่นอน

 

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยอีกด้วยว่า บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของไทยมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ตกลงให้นักท่องเที่ยวคนจีนเลื่อนวันเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งค่าเดินทางจากตั๋วสายการบิน ค่าทัวร์ท่องเที่ยว และค่าที่พักโรงแรม 

 

ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในระหว่างนี้ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เสนอแนวทางการขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับธุรกิจสายการบิน การกู้ยืมเงินอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การปรับลดค่าธรรมเนียมการใช้งานสนามบิน (ค่าจอดรถ, ค่าลงจอดเครื่องบิน) รวมถึงการขยายเวลาการชำระเงินให้กับผู้ประกอบการธุรกิจสายการบิน ซึ่งทาง ททท. จะนำเสนอให้กับรัฐบาลพิจารณาในลำดับถัดไป

 

สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในปี 2563 นี้ ยุทธศักดิ์บอกว่า ยังคงยึดไว้ตามเป้าหมายเดิมที่ 40.78 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยที่ 2.03 ล้านล้านบาท (นับรวมการเร่งหานักท่องเที่ยวทดแทนจากประเทศอื่นๆ เข้ามาแทนนักท่องเที่ยวจีนที่จำนวนกว่า 2 ล้านราย)

 

ด้าน ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยอดการยกเลิกจองโรงแรมของนักท่องเที่ยวจีนมีทุกวัน แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงพีกซีซัน การยกเลิกการจองที่พักจึงเป็นการยกเลิกของกรุ๊ปทัวร์จีนขนาดใหญ่ ซึ่งการยกเลิกการจองที่พักของนักท่องเที่ยวจีนในกลุ่ม FIT (เที่ยวด้วยตัวเอง) ยังอยู่ที่สัดส่วนประมาณ 50% เท่านั้น

 

ขณะที่กลุ่ม MICE (เดินทางมาท่องเที่ยวและทำงาน เจรจาธุรกิจ) คาดว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม MICE จากประเทศจีนลดลงไปอย่างน้อยประมาณ 5-6 กรุ๊ป อย่างไรก็ดี จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE เดินทางมายังประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 50,000-60,000 ราย

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising