×

การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นดีกว่าชั้นเดียวอย่างไร

11.05.2021
  • LOADING...
การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นดีกว่าชั้นเดียวอย่างไร

หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าหรือ ‘มาสก์’ (Mask) ป้องกันการแพร่โรคโควิด-19 เพราะมีคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำลาย น้ำมูก เสมหะกระเด็น ‘ออก’ จากผู้สวมหน้ากากอนามัย และป้องกันการสูดหายใจเอาละอองเหล่านี้ ‘เข้า’ สู่ร่างกายได้ ซึ่งทุกคนควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น

 

ก่อนจะพูดถึงหน้ากากอนามัย 1 หรือ 2 ชั้น ขอสรุปว่าหลักการสวมหน้ากากอนามัยสั้นๆ 2 ข้อคือ

 

  • สวมหน้ากากอนามัยคลุมทั้งจมูกและปากให้กระชับ ไม่ควรมีช่องว่างให้อากาศลอดผ่านเข้ามาได้ เช่น หน้ากากอนามัยจะมีลวดอยู่ด้านบน ต้องกดลวดให้แนบกับสันจมูก ระมัดระวังหน้ากากอนามัยเลื่อนลงจากจมูกเวลาพูดไปนานๆ และไม่เลื่อนหน้ากากอนามัยลงมาอยู่ที่ใต้คางโดยไม่จำเป็น เป็นต้น

 

 

  • เลือกหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันละอองทางเดินหายใจ หน้ากากที่เหมาะสมคือ หน้ากากอนามัย (Surgical Mask) หรือหน้ากากผ้าก็ได้ แต่สำหรับหน้ากากผ้าควรเลือกหน้ากากที่มีหลายชั้น เส้นใยแน่น หายใจสะดวก อาจทดสอบด้วยการส่องกับหลอดไฟแล้วสามารถกั้นแสงได้

 

 

ส่วนการสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น มีที่มาจากงานวิจัยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ (CDC) ที่ตีพิมพ์ในวารสาร MMWR เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยการทดลองแรกให้หุ่นสวมหน้ากากอนามัยแบบต่างๆ แล้วจำลองการไอ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันละอองที่กระเด็นออกมา พบว่า

 

  • หน้ากากอนามัย 56.1%
  • หน้ากากผ้า 51.4%
  • หน้ากากอนามัย+หน้ากากผ้า = 2 ชั้น 85.4%
  • หน้ากากอนามัยที่ผูกสายคล้องเป็นปม 77.0%

 

เนื่องจากถ้าสังเกตเวลาสวมหน้ากากอนามัย ตรงด้านข้างของใบหน้าทั้ง 2 ข้างจะมีช่องว่างเกิดขึ้น หรือหน้ากากผ้าก็อาจหลวมไม่พอดีกับใบหน้า ถ้าผู้สวมหน้ากากอนามัยมีอาการไอก็จะมีละอองรั่วออกไปได้ การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นคือหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยจึงช่วยปิดช่องว่างนี้ และเพิ่มประสิทธิภาพได้

 

และการทดลองต่อมาใช้หุ่น 2 ตัว ให้หุ่นตัวแรก (A) จำลองการไอ ส่วนหุ่นอีกตัว (B) จำลองเป็นผู้รับละอองจากการไอ พบว่า สำหรับหน้ากากอนามัยปกติจะมีประสิทธิภาพ 

 

  • A: ไม่สวม / B: สวม = 7.5%
  • A: สวม / B: ไม่สวม = 41.3%
  • A/B สวมทั้งคู่ = 83.0%

 

หน้ากากอนามัย 2 ชั้น มีประสิทธิภาพ

 

  • A: ไม่สวม / B: สวม = 83.0%
  • A: สวม / B: ไม่สวม = 82.2%
  • A/B สวมทั้งคู่ = 96.4%

 

หน้ากากอนามัยที่ผูกสายคล้องเป็นปม มีประสิทธิภาพ

 

  • A: ไม่สวม / B: สวม = 64.5%
  • A: สวม / B: ไม่สวม = 62.9%
  • A/B สวมทั้งคู่ = 95.9%

 

การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการสวมหน้ากากอนามัยให้กระชับกับใบหน้ามีประสิทธิภาพสูงมากกว่า 95% ทั้งโดยวิธีการสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น (หน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัย) และการผูกสายคล้องหน้ากากอนามัยให้เป็นปม ถึงแม้ว่าเดิมการสวมหน้ากากอนามัยชั้นเดียวจะมีประสิทธิภาพประมาณ 55% เท่านั้น

 

ช่วงนี้ผมทดลองสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นแล้ว ถ้านั่งทำงานปกติ รู้สึกอึดอัดขึ้นไม่มากนัก แต่จะรู้สึกเหนื่อยถ้าออกแรงมากขึ้น เช่น เดินขึ้นบันได และอาจมีปัญหาตอนถอดดื่มน้ำ/รับประทานอาหารที่จะต้องดูแลหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งอย่าลืมล้างมือทุกครั้งเมื่อหยิบจับหน้ากากอนามัยด้วยนะครับ

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising