ช่วงนี้มีงานดีๆ ให้เดินคับคั่ง คนที่ชอบเสพงานศิลป์และอินกับความเป็นญี่ปุ่นน่าจะปลื้มใจไปกับงาน Hotel Arts Festival in Park Hotel Tokyo ซึ่งรวมผลงานของศิลปินหลายสไตล์ โดยใช้พื้นที่ 3 ชั้นแบ่งเป็นโซนจัดงานนิทรรศการ, เวิร์กช็อป, ทอล์กโชว์, Live Performance และ Projection Mapping ด้วย ปีนี้งานเพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 5-6 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยราคาค่าเข้าชมเพียง 2,000 เยน แถมฟรีเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นอย่าง Art Cocktail ซึ่งใช้ช็อกโกแลตปั่นกับน้ำแข็งไสเหยาะวิสกี้ใส่กำลังพอหอมชื่นใจ

     จะมีอะไรน่าสนใจให้ดูในงานนี้บ้างไปดูกัน

ชั้น 25, ชั้น 26

     เริ่มเช็กอินเข้างานกันที่ Art Lounge ที่บริเวณชั้น 25 ได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ตรงนี้มีดีเจเปิดแผ่นและศิลปะการแสดงสด ชื่อ Pulse of Sound จากศิลปินหญิงจอมถัก ซากิ จิกาไรชิ (Saki Chikaraishi) ที่หนีบลูกสาวมาช่วยถักไหมพรมห่อหุ้มเครื่องดนตรีตามจุดต่างๆ โดยที่เธอยืนยันว่า อยากให้พวกเราช่วยกันไล่แกะอย่างไม่ต้องเกรงใจ  

     ชั้น 26 เน้นงานนิทรรศการ ถ้าชอบงานเรียบๆ แต่ Very Japanese ควรแวะไป ‘The Artisans’ Life’ Room by Nippon-no-waza.com ดูงานคราฟต์ญี่ปุ่นที่แอบขอโมเดิร์นนิดๆ และงาน ‘Structurescape’ โดยกลุ่ม C-DEPOT ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเทคนิคก่อสร้าง และโครงสร้างตึกสูง

     ส่วนคนที่รักการผจญภัยหน่อยๆ แวะไปดูหิ่งห้อยที่ห้อง Memory of firefly of the dark ซึ่ง 3 ศิลปิน ได้แก่ เคนจิโร ทาคาดะ (Kenjiro Takada), คาคุโด มานามิ (Kakudo Manami) และอาซาโตะ (Asato) ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพ, เสียง และกลิ่น ตั้งใจจำลองบรรยากาศหน้าร้อนและแมลงยามค่ำคืน เพื่อให้ผู้ชมสนุกไปกับการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสที่ถูกจำกัด

     ปิดท้ายด้วยห้อง Live Studio โดย M ซึ่งเป็นศิลปินหนุ่มที่ซ่อนตัวตนไว้ภายใต้หน้ากากกัปปะสีเงินวาววับ M พกเครื่องดนตรีมาหลายชนิด เล่นดนตรีสลับวาดรูปไปมาตามใจสไตล์กัปปะนิยม โดยขอความร่วมมือจากคนดูเป็นระยะ แม้จะสื่อสารกันด้วยคำพูดไม่เข้าใจ แต่ก็เป็นบรรยากาศที่ทุกคนต่างก็เอาใจช่วยให้คุณกัปปะสร้างผลงานอย่างสนุกสนาน

ชั้น 31

     ไฮไลต์ของงานอยู่ที่ชั้นนี้! Artist in Hotel คือโปรเจกต์เนรมิตห้องพักทั้ง 31 ห้องบนชั้น 31 ให้กลายเป็นแกลเลอรีที่นอนดูได้โดย 31 ศิลปิน ปกติไม่เปิดให้คนนอกเข้าชม ถ้าไม่ใช่แขกที่พักห้องนั้นๆ แถมภายในงานมีศิลปินยืนประจำห้องพร้อมมีตแอนด์กรี๊ดกันอย่างใกล้ชิด

     ด้วยความที่ธีมคือ ‘ความงดงามแบบฉบับของญี่ปุ่น’ แน่นอนว่าสัญลักษณ์ดังๆ ของญี่ปุ่นอย่าง Sakura (Hiroko Otake), Fuji (Shiki Taira), Sumo (Hiroyuki Kimura), ZEN (Seihaku Akiba), Bamboo (Yoshitaka Nishikawa), Samurai (Kenyu Mitsuhashi), Festival (Nanami Ishihara), Wabi Sabi (Conami Hara), Public Bathhouse (Keiko Migita), Haiku (Rieko Fujinami), Yokai (Nobuo Magome), The Tale of Genji (Takushi Mizuno), Dragon (Kiyoko Abe), Japanese People (Osamu Nakajima) มาครบหมด

     แต่ละห้องคอนเซปต์สนุกๆ ทั้งนั้น เช่น ห้อง Otafuku Face โดย อากิ คอนโดะ (Aki Kondo) แม่สาวหน้าแป้นแล้นที่ส่งยิ้มให้เรามาจากหัวเตียงนี่ล่ะคือความงามตามขนบ 5 ประการของสาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณที่แสดงถึงความใจดี ใจกว้าง ความถ่อมตัว ซึ่งก็คือความงามทางจิตใจของคนญี่ปุ่น

ห้อง Geisha Goldfish โดย Aki Narita

     ในความฟุ้งฝันแบบศิลปินสาว อากิ (Aki) บอกว่า ถ้านอนในห้องนี้แล้วฝัน มันคงเป็นเรื่องราวในโลกคู่ขนาน ที่สำคัญปลาทองเป็นสัตว์มงคล ถ้าฝันเห็นปลาทองจะโชคดี ถ้ายิ่งฝันว่าจับปลาทองได้ (จะใช้กี่มือก็ได้) สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ คอนเซปต์ว่าเฟี้ยวแล้ว ในวันงาน อากิยังพาหมอดูไพ่ทาโรต์สุดแซ่บมาเปิดซุ้มดูดวงบนเตียง และจัดให้มีมุมเพนต์ปลาทองแจกโชคกลับบ้านด้วย

ห้อง Castle โดย Kazuki Mizuguchi

     ผู้ที่เราขอยกให้เป็นศิลปินที่บ้าพลังที่สุดในกลุ่ม เขาเดินทางไปดูปราสาททั่วประเทศก่อนเริ่มลงมือ รวมแล้วใช้เวลาปีกว่าถึงจะวาดเสร็จ กิมมิกที่เท่มากคือ เมื่อเปิดม่านตอนกลางคืน ภาพปราสาทเอโดะจะสะท้อนบนกระจก ตรงจุดที่พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ตั้งอยู่จริงๆ คาซุกิดูเป็นศิลปินที่ขี้อาย แต่อุตส่าห์มาสะกิดให้เรานั่งเก้าอี้ชมปราสาทจากจุดที่เขาคิดว่าสวยที่สุด

     งานสนุกดูเพลินมาก ไว้จัดใหม่ครั้งหน้าอย่าพลาดชมนะ!