ฮ่องกง กลับมาอยู่ในฐานะผู้ท้าชิงที่จะก้าวไปสู่การเป็นเมืองหลวงด้านคริปโตเคอร์เรนซีของเอเชีย หลังจากที่หน่วยงานกำกับของฮ่องกงออกมาเคลียร์กฎเกณฑ์ต่างๆ ให้มีความชัดเจนสำหรับนักลงทุนรายย่อย โดยสามารถซื้อขายคริปโตได้อย่างถูกกฎหมาย และเป็นการเปิดโอกาสให้ฮ่องกงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากเทรดเดอร์ชาวจีนที่ไม่สามารถซื้อขายได้เองภายในประเทศ เพราะยังขัดกับกฎหมายของจีน
Lennix Lai ผู้อำนวยการด้านตลาดการเงินของ OKX ศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตในฮ่องกง กล่าวว่า “เรารอคอยกฎเกณฑ์ในลักษณะนี้มาถึง 5 ปี กฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการพัฒนาไปข้างหน้า”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เกิดอะไรขึ้นกับ ‘ฮ่องกง’ ทำไมสถานะ ‘ศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย’ กำลังถูกสั่นคลอน และอาจกลายเป็นแค่อดีต
- ส่องกรณีศึกษาการเติบโตของ เศรษฐกิจสิงคโปร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า
- เปิดจุดเด่น เวียดนาม หลังจ่อขึ้นแท่นประเทศที่คว้าชัยในยุค Deglobalization
ความล่าช้าในด้านกฎเกณฑ์รองรับของฮ่องกง ส่งผลให้คู่แข่งสำคัญอย่างสิงคโปร์มีมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไหลเข้าสู่ประเทศขยับขึ้นไปสู่ระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะที่มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไหลเข้าฮ่องกงอยู่ที่ 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์ อิงจากข้อมูลของ Chainalysis
อย่างไรก็ดี ทางการฮ่องกงได้ออกมาส่งสัญญาณในการปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อรองรับการซื้อขายและเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนรายย่อย ผ่านงานประชุมด้านฟินเทคของฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งจะเปลี่ยนไปจากกฎเกณฑ์ปัจจุบันที่อนุญาตเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มีพอร์ตลงทุนขั้นต่ำ 8 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ถึงจะสามารถซื้อขายคริปโตได้
Sam Bankman-Fried ผู้ร่วมก่อตั้ง FTX ศูนย์ซื้อขายคริปโต ซึ่งย้ายสำนักงานออกจากฮ่องกงไปยังบาฮามาสเมื่อปีก่อน มองว่า “ฮ่องกงยังคงเป็นฮับด้านคริปโตของโลก”
ในมุมกลับกัน รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย หลังจากพยายามที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนด้านคริปโตมานานหลายปี
Ravi Menon กรรมการผู้จัดการของธนาคารกลางสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์ไม่ได้ต้องการจะเป็นฮับด้านการซื้อขายและเก็งกำไรในคริปโต ธนาคารกลางได้ออกกฎเกณฑ์เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนรายย่อยกู้เงินมาลงทุนในคริปโต และขอให้ศูนย์ซื้อขายต่างๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่านักลงทุนแต่ละคนเข้าใจถึงความเสี่ยง
ความแตกต่างของนโยบายทำให้บริษัทด้านคริปโตบางส่วนอาจเปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะย้ายไปยังสิงคโปร์ อาจกลับลำอยู่ในฮ่องกงต่อไป อย่างกรณีของ Metalpha บริษัทบริหารจัดการการลงทุนด้านคริปโต
ในขณะที่สิงคโปร์ยืนยันว่ายังคงเปิดรับคริปโต เพียงแต่จะโฟกัสไปที่ตลาดของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก
Lawrence Wong รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เรายินดีที่จะเปิดรับเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Distributed Ledgers รวมทั้งเปิดรับศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ที่จะเข้ามาช่วยปฏิรูปอุตสาหกรรมการเงิน”
อ้างอิง: