หากใครกำลังมองหาของกินอร่อยๆ สำหรับฉลองกันแบบไพรเวตในกลุ่มเพื่อน เราแนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมากิน Chef’s Table น้องใหม่กันดู แค่รวมตี้ให้ครบ 6 คน จองคิวให้เรียบร้อย แล้วเตรียมชิมอาหารเหลาชั้นเลิศได้เลย
เรากำลังพูดถึง ‘Hong Haos’ เชฟส์เทเบิลแบบเหลาๆ สไตล์ฮ่องกง-มาเก๊า ฝีมือเชฟกิ๊ก-กมล ชอบดีงาม ทายาทรุ่นที่ 3 ของเลิศทิพย์ ร้านอาหารจีนแต้จิ๋วชื่อดังย่านลาดพร้าว-วังหิน ที่รอบนี้เชฟขอพักบทบาทหัวเรือใหญ่เลิศทิพย์ชั่วคราว เพื่อมาเปิดครัวทำเชฟส์เทเบิลที่รับแขกเพียงวันละรอบ หรือหากนับวันที่เปิดในแต่ละเดือน ก็ไม่เกินเดือนละ 10 วันเท่านั้น
เมื่อจองคิวและเลือกวันที่สะดวกพร้อมชำระเงินเรียบร้อย เชฟจะแจ้งที่อยู่ให้ทราบพร้อมแผนที่ เมื่อถึงโทรแจ้งให้เชฟออกมารับได้เลย ใครที่กังวลว่าจะเดินทางไม่สะดวก ขอบอกว่าเดินจากรถไฟใต้ดินไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้ว
บรรยากาศเชฟส์ เทเบิลที่นี่เหมือนกินข้าวบ้านเพื่อนจริงๆ ซ้ายมือเป็นครัวเปิดและเคาน์เตอร์บาร์เผื่อใครอยากนั่งกินหน้าครัวหรือแวะชนแก้วกับเชฟ ส่วนขวามือเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่รับแขกได้ประมาณ 6-8 คน พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ ยามเย็นเพลินๆ ระหว่างรอเชฟเตรียมอาหาร
เมนูอาหารที่นี่จะต่างจากเลิศทิพย์ Hong Haos จะมีความเป็นอาหารจีนยกระดับเหมือนกินเหลามากกว่า อีกทั้งมีกลิ่นอายฮ่องกง-มาเก๊า ให้เราได้หายคิดถึงจิมซาจุ่ย ส่วนเรื่องวัตถุดิบเชฟไม่จำกัดแค่ของจีนเท่านั้น เพราะมีทั้งการใช้ซีฟู้ดของไทยที่คุณภาพดีไม่แพ้ต่างประเทศ และวัตถุดิบพรีเมียมอีกหลายอย่างจากฝั่งยุโรป แต่เมื่อนำเสนอออกมาแล้วก็คืออาหารเหลาดีๆ นี่เอง
เชฟกิ๊กจะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส รวมทั้งหมด 9 คอร์ส ประกอบด้วยของกินเล่นและติ่มซำ 3 คอร์สแรก หลังจากนั้นเป็นซุปเพื่อเตรียมเข้าสู่เมนคอร์สอีก 4 อย่าง แล้วค่อยตามด้วยของหวานเป็นอันเสร็จพิธี
คอร์สแรก เชฟตั้งชื่อว่า มุกมังกร เป็นเมนูที่ใช้แข่งขันรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย เมื่อปี 2558 และได้รับตำแหน่งชนะเลิศ เชฟกิ๊กนำเสนอกุ้งล็อบสเตอร์ 7 สี จากภูเก็ต และเสิร์ฟในลักษณะกึ่งซาชิมิ กึ่งยำน้ำมันงา โดยนำเนื้อกุ้งไปแช่ในน้ำปลากับน้ำแร่มีฟอง จากนั้นคลุกเคล้าล็อบสเตอร์ในซอสมัสตาร์ดน้ำมันงา ก่อนที่จะท็อปด้วยโกลด์คาเวียร์นำเข้าจากอิตาลี สัมผัสได้ถึงความสดชื่นและเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว
อัญมณีแห่งผืนดิน ใช้ของดีจากป่าและท้องทะเลมาทำติ่มซำ เป็นทรัฟเฟิลกับติ่มซำทอด หรือเนื้อกุ้งมังกรปั้นก้อนทอดรองฐานด้วยเห็ดหอม กินคู่กับทรัฟเฟิลครีมซอสรสเข้มข้น ต่อด้วย ขุมทรัพย์องค์ไทเฮา ประเทศด้วยเป๋าฮื้อ กระเพาะปลาสด และกระเพาะปลาทอด ราดซอสน้ำแดง คอร์สนี้ครบรสสัมมัส เพราะมีทั้งความเด้งของกระเพาะปลาแบบสด หรือจะเป็นความหนุบหนับแบบกระเพาะปลาทอด และความกรุบกรอบของเป๋าฮื้อ ที่ชวนให้เรารับประทานช้าๆ แล้วซดน้ำแดงหมดทั้งจาน
หมื่นปี หมื่นหมื่นปี ซุปใสเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่จานหลัก ซุปวัวที่มีความใสกิ๊กแต่รสชาติเข้มข้น เพิ่มความอูมามิด้วยกังป๋วย หรือหอยเชลล์แห้งจากฮอกไกโด ไก่ดำ และสมุนไพรจีน
เมนคอร์ส 4 อย่าง ครบครันวัตถุดิบชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นปลาเก๋าแดง เนื้อวากิว ห่านย่าง และล็อบสเตอร์ เริ่มด้วยจานหลักอย่างแรก มัฉฉาลุยไฟ ปลาเก๋าแดงราดน้ำมันร้อนๆ ให้เนื้อปลาสะดุ้ง จากนั้นนำไปอบจนหนังกรอบและนุ่มเนื้อใน แล้วราดซอสฮ่องกงที่ทำจากขิงดอง รับประทานกับเห็ดหอมผัดหอมแดง กระเทียม และขิงทอด
ราชสีห์คำราม จานหลักอย่างที่สองที่เชฟดัดแปลงมาจากเนื้อน้ำมันหอย สเต๊กเนื้ออากิตะวากิว A5 สันนอก เคลือบพริกไทยดำเพื่อลดความมันและเลี่ยน แถมยังเพิ่มความเผ็ดร้อนอ่อนๆ ด้วย มาพร้อมผักเคียงอย่างหัวไชเท้าตุ๋น กับปวยเล้งผัดน้ำมันหอย เติมกลิ่นหอมด้วยเหล้าจีนกับน้ำมันงา แล้วเพิ่มครีมเล็กน้อยให้ได้ผัดผักที่มีรสกลม
หากเป็นอาหารสไตล์ฮ่องกงแต่ถ้าไม่มีห่านก็คงพูดว่าฮ่องกงได้ไม่เต็มปาก เชฟเลยจัดเมนูจานหลักอย่างที่สาม หงส์เหนือมังกร ห่านทั้งตัวหมักเต้าเจี้ยว พริกไทยดำ และสมุนไพรไทย จากนั้นเป่าลมหนังห่านแล้วดรายเอจอีกหนึ่งคืน จึงค่อยนำไปย่าง รับประทานพร้อมบะหมี่ไข่ผัดซอส XO ก้านคะน้า และผัดถั่วหวาน
คิดถึงจิมซาจุ่ย จานหลักอย่างสุดท้าย ได้แรงบันดาลใจจากเมนูข้าวอบหม้อดินสไตล์ฮ่องกง เชฟอบข้าวในหม้อดินไซส์ใหญ่ พร้อมใส่เครื่องแน่นๆ ทั้งล็อบสเตอร์ กุนเชียง เบคอนกรอบ และซอสโฮมเมด รับประกันความอิ่มแปล้กันถ้วนหน้า ส่วนข้าวอบที่เหลือเชฟจัดแจงตักใส่กล่องห่อกลับบ้านให้ทุกคนกินต่อวันรุ่งขึ้นอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยไอศกรีมวานิลลาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะเชฟเพิ่มความ Savory ให้กับไอศกรีมด้วยการโรยซอส XO ที่ผัดจนกรอบเป็นเกล็ดครัมเบิล ทำให้วานิลลาอร่อยและครบรส หวาน มัน เค็ม ขึ้นกว่าเดิม
ใครที่สนใจและอยากชิมฝีมืออาหารเหลาสไตล์เชฟกิ๊ก สามารถทักไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองคิวได้ที่ LINE: @honghaos หรืออีเมล [email protected]