เมื่อเราถามนักแสดงหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลัง HOLIDAY PASTRY ร้านขนมแห่งใหม่ล่าสุดในย่านเจริญนคร ว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเปิดร้านขนมอย่างจริงจังถึงขนาดเรียกว่าแฟลกชิปสโตร์ อิน-สาริน รณเกียรติ ก็ตอบพวกเราทันที “เพราะมันถึงเวลาแล้วล่ะที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าตัวตนของเราคืออะไร”
เพราะว่าก่อนหน้านี้ HOLIDAY PASTRY เป็นเพียงแบรนด์ขนมออนไลน์เท่านั้น ทำให้หลายๆ เมนูที่เจ้าตัวอยากทำไม่สามารถทำได้จริง เหตุผลก็เพราะเรื่องการเดลิเวอรีนั่นเอง “ไม่อยากให้ทุกคนได้รับขนมหน้าตาไม่น่ากิน” อินบอก
ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจเปิดร้านขนมสไตล์ All Day Dining ขึ้นมา โดยตั้งอยู่ในโครงการ OURS ซอยเจริญนคร 10
“ผมไม่อยากให้เรียกที่นี่ว่าเป็นคาเฟ่นะ เพราะเราตั้งใจทำอะไรที่มากกว่านั้น” เมื่ออินเริ่มเล่าถึงร้านนี้ให้ฟังมากขึ้น เราก็เข้าใจว่าเขาไม่อยากทำอะไรที่ฉาบฉวย และต้องการให้ทุกคนมอง HOLIDAY PASTRY เป็นจุดหมายที่ต้องแวะมาเมื่ออยากกินขนมอร่อยๆ มากกว่า
เพราะฉะนั้นขนมแต่ละเมนูจึงมีองค์ประกอบและลูกเล่นหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ เช่น มีน้ำหอมให้ดมกลิ่นก่อนชิม หรือมีวิดีโอให้ดูเป็นการบิลด์อารมณ์เสมือนพาทุกคนไปนั่งปิกนิกอยู่ริมทะเล
เช่นเดียวกับการตกแต่งร้านที่เน้นใช้โทนสีเหลืองให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็ชวนรู้สึกสนุกไปด้วย อินบอกว่าเขาออกแบบเอง ตีความจากชื่อร้านที่อยากชวนทุกคนมานั่งพักผ่อนกินขนมด้วยกัน
ร้านมีทั้งเมนูขนม อาหาร และเครื่องดื่ม ที่ครีเอตมาอย่างดี เราได้ลองเมนูแนะนำ เริ่มจาก Korean Spicy Cheese Chicken Bombs (280 บาท) คล้ายกับแซนด์วิช แต่ชวนนึกถึงของคาวผสมของหวาน เพราะร้านใช้ขนมปังโทสต์ที่กริลล์ให้ผิวกรอบนิดๆ ก่อนท็อปด้วยไก่ทอดซอสเผ็ดและชีส คนไหนเที่ยวคาเฟ่จนเบื่อโทสต์หวานๆ ลองสั่งเมนูนี้มาชิมดู
แต่ถ้าใครอยากกินจริงจังขึ้นมาหน่อย ร้านก็มี Mala Spaghetti with Crispy Chicken (320 บาท) เป็นสปาเกตตีไก่กรอบซอสหม่าล่าที่ทำรสชาติได้จัดจ้านจริงๆ หากใครอยากลองอะไรใหม่ๆ ก็แนะนำเช่นกัน
มาถึงเมนูขนมหวานที่เป็นจานหลักของที่นี่ เริ่มจาก The Best French Toast Ever (320 บาท) เป็นเมนูที่อยากแนะนำให้สั่งมาลอง เพราะร้านจะเสิร์ฟเฟรนช์โทสต์นุ่มๆ มาให้พร้อมครีมนมสดที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากตั้งใจเติมความหอมหวานลงไปด้วย ‘มอลต์’ ที่อินเล่าว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการทำอาหารของเชฟ จึงอยากนำความสนุกเหล่านั้นมาใส่ในขนมให้ทุกคนเข้าใจง่ายขึ้น
ต่อมาเป็นเมนู Beach Vibes (380 บาท) อินอยากพาทุกคนไปเที่ยวทะเลด้วยการเสิร์ฟเค้กเอิร์ลเกรย์และผลไม้มาในตระกร้าปิกนิก ซึ่งก่อนชิมแนะนำให้สแกนวิดีโอชมด้วยจะได้อรรถรสมากขึ้นเวลาชิม
Summer Time (350 บาท) จะเต็มไปด้วยรสชาติของผลไม้ฤดูร้อนอย่างมะม่วงและเสาวรส ผสมความกรอบนุ่มจากแป้งครัวซองต์และวานิลลาสปันจ์เค้ก ก่อนกินจะมีน้ำหอมมาให้ดมกลิ่นเพิ่มลูกเล่น หลังจากนั้นแนะนำให้กินทุกองค์ประกอบพร้อมกันในคำเดียว จะได้รสชาติตามที่ร้านอยากให้ทุกคนสัมผัส
เมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาดคือ O.M.G Pie (950 บาทต่อปอนด์) เพราะเป็นเมนูขายดีตั้งแต่สมัยเปิดร้านแรกๆ เป็นพายคัสตาร์ดคาราเมลเครมบรูเลที่มีครบทั้งหน้าตาสวยงาม ความกรอบจากด้านนอกที่ทำจากคุกกี้โอ๊ตมีล ตัดกับไส้คัสตาร์ดนุ่มๆ ด้านใน รวมถึงรสชาติที่หวานกำลังดีจนหลายคนกินหมดได้ทั้งชิ้น
สุดท้ายที่แนะนำคือเมนูเครื่องดื่ม มีให้เลือกตั้งแต่ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ไปจนถึงม็อกเทล ซึ่งเราอยากบอกว่า กาแฟของที่นี่ก็พิเศษไม่แพ้ร้านกาแฟทั่วๆ ไป เนื่องจากเขาตั้งใจทวิสต์การชงให้ได้รสชาติแปลกใหม่นิดหน่อย และมีให้เลือกครบทุกเมนูพื้นฐาน
ส่วนเมนูที่ร้านแนะนำสำหรับคนไม่ดื่มคาเฟอีน เช่น Manhattan Flare (240 บาท) ม็อกเทลที่เน้นความสดชื่นจากผลไม้ Ichigo Strawberry Milk (160 บาท) นมสตรอว์เบอร์รีที่ทำจากซอสสตรอว์เบอร์รีและนมหอมมันแต่ไม่เลี่ยน หรือ Foundtain Chocolate Milk (160 บาท) เมนูช็อกโกแลตเข้มข้นสุดๆ แต่ไม่หวาน สำหรับแฟนช็อกโกแลตโดยเฉพาะเลย
“ทุกเมนูที่นี่เราตั้งใจทำให้หวานกำลังดีและยังได้รสชาติของเมนูนั้นๆ อยู่ ซึ่งพวกเราชิมกันหลายรอบมากๆ เพื่อหารสชาติที่คนส่วนใหญ่จะถูกใจ” อินเล่าให้ฟัง
นอกจากทั้งหมดนี้ ร้านยังมีเมนูเบเกอรีอื่นๆ เช่น เค้ก, ทาร์ต, บริยอช หรือขนมพิเศษตามเทศกาล ให้แวะมาลองได้อีกเรื่อยๆ
ส่วนใครที่เป็นแฟนของ HOLIDAY PASTRY อยู่แล้วและอยากตามมาชิมเมนูอื่นๆ เราแนะนำให้เผื่อเวลาในการจองคิวล่วงหน้าด้วย เนื่องจากร้านมีพื้นที่จำกัด แถมแฟนๆ ของทั้งแบรนด์ขนมและเจ้าของร้านต้องตามมาชิมอย่างเนืองแน่นแน่นอน แต่เราเชื่อว่าคนรักของหวานจะต้องเข้าใจ
HOLIDAY PASTRY
Open: เปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.
Address: โครงการ OURS ซอยเจริญนคร 10
Budget: เริ่มต้น 300-500 บาท
Facebook: www.facebook.com/holidaypastryofficial
Instagram: holidaypastry
Map: https://goo.gl/maps/rmHJY2h6CFjVCnYDA