ความคืบหน้าจากเหตุสะเทือนขวัญที่คนร้ายซึ่งอ้างตัวเป็นแนวร่วมกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้ก่อเหตุยิงและจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อ Super U ในเมืองเทร็บส์ แคว้นอ็อกซีตานี ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) ล่าสุดมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตแล้ว 4 คน บาดเจ็บ 16 คน ไม่รวมผู้ก่อเหตุที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อนายเรดูอาน ลักดิม อายุ 25 ปี พลเมืองชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโมร็อกโก ซึ่งเคยถูกตัดสินในคดีพกพาอาวุธปืนและยาเสพติดมาก่อน ได้ก่อเหตุปล้นชิงรถยนต์ที่เมืองการ์กาซอน แล้วยิงคนในรถ 2 คน ผู้โดยสารบนรถ 1 คนเสียชีวิตทันที ส่วนคนขับรถขณะนี้ยังอาการสาหัส
จากนั้นได้ออกตระเวนกราดยิงผู้คน โดยยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่กำลังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ ทำให้บาดเจ็บบริเวณหัวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะขับรถต่อไปยังเมืองเทร็บส์ที่อยู่ใกล้เคียง
นายลักดิมบุกเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อ Super U ก่อนจะตะโกนคำว่า “อัลเลาะห์ อักบา” (พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ที่สุด) และประกาศตัวเป็นทหารแนวร่วมกลุ่มรัฐอิสลาม รวมถึงเขาพร้อมจะสละชีวิตเพื่อซีเรีย พร้อมกับกล่าวต่อว่าให้ปล่อยตัวนายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องหาก่อการร้ายโจมตีกรุงปารีสเมื่อปลายปี 2015 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 ราย ออกจากคุก
ต่อมานายลักดิมยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 2 รายคือลูกค้าและพนักงานของร้าน ก่อนจะยิงปืนขู่หลายนัด ทำให้คนในซูเปอร์มาร์เก็ตขวัญผวาและพยายามหนีออกมาจนสำเร็จได้ประมาณ 50 คน โดยพนักงานรักษาความปลอดภัยกล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่าคนร้ายยิงปืนมาที่เขา 2 นัด โชคดีที่ยิงไม่แม่น จึงไม่เป็นอะไร
ทว่ามีหญิงคนหนึ่งที่โชคร้าย ไม่สามารถวิ่งหนีออกมาได้ จึงถูกคนร้ายจับเป็นโล่มนุษย์ตัวประกัน
วินาทีนั้นเองที่ตำรวจฮีโร่นาม พ.ต.ท. อาร์โนด์ เบลแทรม วัย 45 ปี อาสาเปลี่ยนตัวเองกับตัวประกันหญิง โดยเขาได้วางโทรศัพท์มือถือไว้ที่โต๊ะแล้วเปิดเสียงไว้เพื่อให้ตำรวจกองกำลังพิเศษด้านนอกได้ประเมินสถานการณ์
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต ทีมตำรวจรีบรุดเข้าไปในที่เกิดเหตุและทำการวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายทันที แต่ตำรวจฮีโร่คนดังกล่าวบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันนี้ (24 มี.ค.)
นายเซดริก เบลแทรม น้องชายของตำรวจฮีโร่ กล่าวว่าพี่ชายของเขาทำมากกว่าหน้าที่ตัวเอง “เขามอบชีวิตให้คนแปลกหน้า ถ้าเราไม่เรียกเขาว่าฮีโร่ ผมก็ไม่จะรู้จะยกย่องเขาว่าอะไรแล้ว”
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวสรรเสริญความกล้าหาญของ พ.ต.ท. เบลแทรม และยกย่องให้เขาเป็นฮีโร่ นอกจากนี้หอไอเฟลยังดับไฟช่วงเที่ยงคืนเพื่อไว้อาลัยให้กับความสูญเสีย เช่นเดียวกับการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและโคลอมเบียที่สนาม Stade de France ที่มีการยืนไว้อาลัยในความเงียบเป็นเวลา 1 นาที
เหตุก่อการร้ายครั้งนี้นับเป็นการก่อการร้ายใหญ่ครั้งที่ 7 แล้วในรอบ 4 ปีของฝรั่งเศส แต่นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำ
อ้างอิง:
