หลังจากที่เปิดตัวมาสักระยะ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ก็ได้ฤกษ์ประกาศราคารถยนต์โมเดลเอสยูวีไฮบริดยอดฮิตของพวกเขาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะมาให้เลือกด้วยกันใน 2 โมเดล ในรุ่น PRO มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,149,000 บาท และรุ่น ULTRA อยู่ที่ 1,249,000 บาท เป็นราคาแบบ ONE PRICE หรือราคาเดียวกันในทุกๆ ช่องทางการจำหน่าย
All New HAVAL H6 Hybrid SUV คือรถโมเดล SUV แบรนด์ HAVAL จากค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งได้รับความนิยมมากๆ ในประเทศจีน โดยทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ เคลมว่าพวกเขาสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 3,500,000 คันทั่วโลก
ดีไซน์ภายนอก All New HAVAL H6 Hybrid SUV ใช้กระจังหน้า Classic Geometric Pattern แบบ 3 มิติ และไฟหน้า Intelligent LED เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน พร้อมไฟท้าย LED Taillight Strip พาดยาวจากซ้ายจรดขวาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาดใหญ่กว่า 19 นิ้ว
ดีไซน์ภายในแบบ Minimalist ใช้สีแบบ Two-Tone และมีหน้าจอที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ถึง 3 หน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจออัจฉริยะแบบ Touch Screen ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอ Multi Information Display ขนาด 10 นิ้ว และ Head Up Display ขนาด 9 นิ้ว ที่กระจกด้านหน้า มาพร้อมชุดเกียร์ไฟฟ้า มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ห้องโดยสาร All New HAVAL H6 Hybrid SUV เน้นความกว้างขวางสะดวกสบาย มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน และยังสามารถเพิ่มความโปร่งโล่งในห้องโดยสารด้วยการเปิดพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่โดยไร้กังวลด้วยระบบกรองอากาศ CN95 พร้อม Ionizer ซึ่งสามารถลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ให้ลดลงเหลือประมาณ 27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้ห้องโดยสารสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
ด้านเครื่องยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ/ลิตร ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งของเกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมระบบ Turbo แปรผัน (VGT) ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดและกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร อ้างอิงจากระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker) และสามารถรองรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น โหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น
ส่วนข้อมูลอื่นๆ สามารถศึกษาได้ที่ https://www.gwm.co.th/ และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองตัวรถและทดลองขับได้ผ่าน 2 ช่องทาง ทั้ง GWM Application และเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH โดยประกาศความพร้อมในการส่งมอบประสบการณ์แบบ O2O (Online to Offline) ด้วยการขยายเครือข่ายการขายและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริการหลังการขายครบวงจรภายใต้หลักการ 4Cs (Connected, Capability, Convenience และ Cost of Ownership) มั่นใจสามารถส่งมอบรถล็อตแรกได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มี GWM Store เปิดให้บริการแล้วทั้งหมด 6 แห่ง แบ่งเป็น Direct Store 3 แห่ง ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล บางนา, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสาขาสีลม คอมเพล็กซ์ และ Partner Store อีก 3 แห่ง ได้แก่ สาขาจรัญสนิทวงศ์, สาขาพระราม 5 และสาขาอุดมสุข โดยตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มอีก 6 แห่ง ภายในเดือนกรกฎาคม
และจะทยอยเปิด GWM Store ให้ครบ 30 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และมีเป้าหมายที่จะเปิดให้ครบ 50 แห่ง ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเตรียมที่จะเปิด Experience Center แห่งแรกนอกประเทศจีน ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ภายในไตรมาสที่ 3 และ Service Center ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น