×

ถ้า AI จะเป็นเหมือนอากาศ ขาดไปไม่ถึงตาย แต่ถ้าไม่เข้าใจ ใช้ไม่เป็น อาจตายทั้งเป็น! คำถามชวนคิดและแนวทางการอยู่ให้รอดในยุค AI ด้วยวิถี M.A.D. by KBTG [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
23.09.2023
  • LOADING...
M.A.D. by KBTG

HIGHLIGHTS

  • อีก 10 ปีข้างหน้า AI กับมนุษย์จะอยู่ร่วมกัน AI จะเป็นเหมือนสมองที่สองช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับมนุษย์อย่างมหาศาล AI จะเป็นเหมือนอากาศที่เราขาดมันไม่ได้ 
  • โลกเปลี่ยนผ่านจากยุค Mobile First สู่ AI First มาตั้งแต่ปี 2019 ทางเดียวที่จะทำให้คุณไม่ตกขบวน ต้อง M.A.D.  
  • M.A.D. คือการบูรณาการระหว่าง Machine Learning, AI และ Data เข้าด้วยกัน แล้ววิถี M.A.D. แบบ KBTG เป็นแบบไหน ทำอย่างไร และมีทิศทางแบบไหน ไปไขคำตอบกัน

คงไม่ต้องเน้นย้ำกันบ่อยๆ อีกแล้วว่า AI มีบทบาทสำคัญของมนุษยชาติขนาดไหน ที่เห็นได้ชัดคือการมาถึงของ ChatGPT ทำให้คนทั่วไปเข้าใจและเข้าใกล้ AI มากขึ้นในชั่วพริบตา

 

กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) บอกว่า “อีก 10 ปีข้างหน้า AI กับมนุษย์จะอยู่ร่วมกัน AI จะเป็นเหมือนสมองที่สองช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับมนุษย์อย่างมหาศาล AI จะเป็นเหมือนอากาศที่เราขาดมันไม่ได้”

   

 

เตรียมความพร้อมก้าวกระโดดสู่ยุคใหม่ของ AI หรือยัง? 


สัตยา นาเดลลา CEO Microsoft เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2019 ว่า โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุค Mobile First สู่ AI First ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ KBTG เริ่มวางรากฐานที่จะเข้าสู่ยุค Augmented Intelligence ด้วยการนำ AI มาใช้ในเรื่องของ Cognitive Banking หรือธนาคารที่เป็น AI-First Banking จากนั้นก็เริ่มเห็นการทำ Data-Driven Transformation เพื่อวางรากฐานด้าน Data ต่อยอดสู่การทำ Automation First Transformation 

 

“KBank และ KBTG เราเป็นเบอร์หนึ่งด้าน AI-First World โดย K PLUS เป็น Mobile Banking เบอร์หนึ่งของไทย มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน รองรับธุรกรรมทางการเงินมากกว่า 23 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่กว่าขนาด GDP ของประเทศไทย เรามีจำนวนผู้ใช้งาน LINE BK มากกว่า 4 ล้านคน, ขุนทองมีจำนวนผู้ใช้งาน 1 ล้านคน และ MAKE by KBank ที่มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” 

 

ในมุมของ AI-First Transformation สิ่งที่เห็นการนำไปใช้ในพาร์ตของ Marketing & Credit Intelligence ทำให้เกิด Conversion Rate เพิ่มขึ้น 3 เท่า นอกจากนั้นยังนำไปใช้ใน NLP Chatbot ตั้งแต่การวิจัยจนถึงนำมาใช้จริง รวมไปถึง Facial Recognition ซึ่งได้ผ่านการรับรองระดับสูงสุดของ iBeta ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล และมีเพียง 3 บริษัทในเอเชียที่ผ่านมาตรฐานนี้   

 

 

จะเป็นผู้ชนะในยุค AI-First ต้อง M.A.D.

 

“ยุคนี้ต้อง M.A.D.” นี่คือประโยคที่กระทิงเน้นย้ำและหยิบมาพูดถึงแทบจะทุกเวที รวมถึงเวทีล่าสุด KBTG Techtopia: Across the AI-Verse ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1-2 กันยายนที่ผ่านมา 

 

กระทิงอธิบายว่า M.A.D. คือการบูรณาการระหว่าง Machine Learning, AI และ Data เข้าด้วยกัน ก่อนจะลงลึกไปในรายละเอียดและฉายภาพให้เห็นว่าที่ผ่านมา KBTG ได้ลงมืออะไรไปแล้วบ้าง 

 

M คือ Machine Learning อาจกล่าวได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการนำข้อมูลไปต่อยอด อย่าง KBTG เองก็นำมาใช้กับงานด้านสินเชื่อจนเกิด Conversion เพิ่มขึ้น 4 เท่า สร้าง Loan Booking เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้น KBTG ยังใช้เพื่อให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน จนสามารถสร้าง Sales Volume โตขึ้น 450 ล้านบาท รวมถึงโปรโมชันต่างๆ ของ KBank ก็เติบโต 4 เท่า 

 

A คือ Artificial Intelligence ที่หลายคนคุ้นเคยคงเป็นการนำ AI ไปใช้ทำ KBTG Verification ในการยืนยันตัวตน หรือการพัฒนาทำ Car AI ร่วมกับเมืองไทยประกันชีวิต นำ AI มาพัฒนา InsurTech ตรวจสภาพรถยนต์ด้วย AI เจ้าแรกในไทย อีกทั้งทาง KBTG ได้รับรางวัล Asian Technology Excellence Awards 2023 สาขา AI ด้าน Car AI​ มาสดๆ ร้อนๆ ไปจนถึงการทำ AI Chatbot สำหรับตอบกลับลูกค้าอัตโนมัติ ประหยัดเวลามากกว่า 20,000 ชั่วโมง ช่วยประหยัดงบประมาณไปได้กว่า 130 ล้านบาทต่อปี  

 

นอกจากนี้ KBTG ยังมีโครงการศึกษาวิจัยร่วมกับ MIT Media Lab ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อีกหลากหลายด้าน ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนา เช่น Future You, คู่คิด by K-GPT หรือ Generative AI เวอร์ชันภาษาไทย 

 

“สำหรับประเทศไทย AI จะเป็นคำตอบของหลายสิ่ง เราได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT Media Lab สร้าง AI Character เพื่อมาสอนเด็ก มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกการศึกษาพลิกโฉมไปตลอดกาล แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานครู หรือแรงงานแพทย์ อีกหน่อยแพทย์ 1 คน จะสามารถรักษาและให้คำปรึกษาคนไทยได้มากถึง 10 เท่า นี่คือวิชันของ KBTG เราอยากนำสิ่งเหล่านี้ไป Empower ผู้คน ช่วยดึงศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพ ตอนนี้เรากำลังทำวิจัยเรื่อง Explainable AI for Neuroscience ซึ่งจะเป็นสเต็ปต่อไปของ ChatGPT มันจะเป็นวิวัฒนาการของ AI ที่สามารถอธิบายเหตุและผลได้” กระทิงกล่าว

 

D คือ Data เนื่องด้วย KBTG มองข้อมูลเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ จึงได้มีการป้องกันเหมือนเงินในห้องนิรภัย นำข้อมูลไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบ ปลอดภัย และโปร่งใส

 

 

กระทิงชู Use Cases ของ KBTG AI Visionary ในด้านของ Personified Finance ว่าในอนาคตลูกค้าทุกคนสามารถมี Private Banker ที่คอยให้คำแนะนำด้านการเงินการลงทุน เหมือนลูกค้ากลุ่ม Wealth หรือ SMEs สามารถมี AI-Enabled Private CFO ช่วยวางแผนการลงทุนได้เหมือนมนุษย์  

 

หรือด้าน AI-Augmented Operation กระทิงบอกว่า เป้าต่อไปคือการ Re-Imagine ประสบการณ์ของลูกค้าให้ตอบโจทย์ยุค AI เช่น การนำ AI มาเขียนโปรแกรม ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

 

ยุค AI รอดลำพังไม่ได้ ต้องชนะด้วยกัน รอดด้วยกัน

 

“โจทย์ที่น่ากลัวคือ AI จะทำให้ความเหลื่อมล้ำยิ่งถ่าง AI จะทำให้มนุษย์บางส่วนเป็น Super Human ผมเชื่อว่าอีก 5 ปีข้างหน้า มนุษย์จะไม่ถูกแทนที่ด้วย AI แต่คนที่ใช้ AI จะแทนที่คนที่ใช้ AI ไม่เป็น 100% หลายอาชีพจะหายไปเพราะ AI ทำได้หมด แต่ก็มีอีกหลายอาชีพที่เกิดขึ้นใหม่ จะเป็นอาชีพที่ผสานรวมความสามารถของมนุษย์และ AI ไว้ด้วยกัน คนที่ยกระดับตัวเองด้วย AI จะทำให้คุณเป็นคนที่แตกต่างและเป็นผู้รอด”  

 

ที่ผ่านมา KBTG จึงมุ่งสร้าง AI Ecosystem ได้แก่ ‘KBTG Labs’ ร่มใหญ่ที่มี KBTG M.A.D. ซึ่งเป็น Center of Excellent มีโปรดักต์ที่พัฒนาจากแล็บแห่งนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น K-GPT, K PLUS, MAKE by KBank และขุนทอง ฯลฯ

 

‘KBTG x MIT Media Lab’ ความร่วมมือที่ร่วมสร้างงานวิจัย รวมถึงผลงานวิจัยจำนวนมากในวารสารงานวิจัยระดับโลก

 

‘KBTG Kampus’ โครงการที่มีเป้าหมายช่วยแก้ปัญหาทางการศึกษาด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยจับมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ ในการผสานรอยต่อระหว่างภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะหรือการทำวิจัย  

 

และ ‘KX’ เปรียบเสมือน Venture Builder ที่ผลิต AI Venture Builder สร้างสตาร์ทอัพหรือธุรกิจใหม่ๆ 

 

 

“ที่เรียกว่า KBTG Kampus เพราะเป็นเหมือนมหาวิทยาลัยย่อมๆ เราต้องการสร้าง Talent รุ่นใหม่ๆ จึงจับมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ เราจับมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำหลักสูตร 2+2 เรียนปริญญาตรีแค่ 2 ปี และมาทำงานได้เงินเดือนที่ KBTG 2 ปี เป็นหลักสูตรที่พัฒนาจากรุ่นแรกที่เป็น 3+1 หรือที่เรียกว่า KBTG Kampus Apprentice โดย KBTG จะพัฒนาหลักสูตรการเรียนร่วมกับสถาบันการศึกษา เพื่อให้วิชาที่เรียนตรงกับความต้องการของตลาด” 

 

นอกจากนั้นยังมี ‘KBTG Kampus ClassNest’ เปิดหลักสูตรด้าน Critical Tech Skills อย่าง Java และ Cyber Security ผ่านการเวิร์กช็อปฟรี และยังได้สร้างประสบการณ์ผ่านการทำงานจริงร่วมกับทีมของ KBTG หรือ ‘KBTG Kampus Co-Research’ จับมือกับสถาบันวิจัยของประเทศไทย เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน

 

“ตลอด 2 ปีที่เราเดินหน้าโครงการ เราเปิดคอร์สออนไลน์ Reskill ไปแล้วกว่า 20 คอร์ส มีผู้เรียนกว่า 14,000 คน ยอดการเข้าชม KBTG Life 273,000 คน รวมถึงการเปิด Bootcamp มีคนสมัคร 600 กว่าคน ส่งคนของ KBTG เข้าไปสอนในสถาบันการศึกษากว่า 11 สถาบัน” 

 

 

Ecosystem ทั้งหมดที่เล่าไปดูเหมือนจะเพียบพร้อมและครอบคลุมสำหรับการก้าวสู่ยุค AI แบบที่ KBTG ตั้งเป้าไว้ แต่กระทิงกลับมองว่า ‘ยังไม่พอ’

 

ถ้าจะสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่งจริงๆ เขามองว่าต้องปรับระบบการศึกษาให้มี Co-Imagine, Co-Thinking, Co-Creating และ Co-Exploring และต้องเรียนแบบ 4P คือ Project, Peers, Passion และ Play  

 

“ตอนนี้เราทำ AI Literacy Guideline ร่วมกับ MIT Media Lab เพื่อให้คนไทยมีความรู้ด้าน AI และอย่าลืมว่าต่อให้มีความรู้ Co-Imagine ก็สำคัญ จะต้องจินตนาการถึงการสร้างอนาคตร่วมกันกับ AI และสร้างแรงบันดาลใจให้คน Co-Exploring จับมือกันเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ร่วมกับ AI สำคัญเลยคือต้องเป็นมนุษย์ที่หัดตั้งคำถามเพื่อค้นหาไปพร้อมกับ AI เพื่อที่จะ Co-Thinking ช่วยคิดและแก้ปัญหา สุดท้ายคือ Co-Creating สร้างแรงกระตุ้นให้คนใช้ AI พัฒนาโซลูชันใหม่ๆ”  

 

“เราทุกคนต้องเป็นผู้อยู่รอดและเป็นผู้ชนะ KBTG ไปคนเดียวไม่ได้ จึงต้องสร้าง Ecosystem เพื่อพาทั้งประเทศให้ชนะไปด้วยกัน Go M.A.D. ไปด้วยกัน แล้วเราจะรอดไปด้วยกัน” กระทิงกล่าว

 

#KBTG #KBTGAIFirst #LetsGetMAD #BeyondBanking #AITechnology

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising