หลังจากที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ประชุมวาระเร่งด่วนและมีมติสนับสนุนให้การประกาศรับรองกรุงเยรูซาเลมทั้งหมดเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการเป็นโมฆะและไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Null and Void) ด้วยคะแนนเสียง 128 เสียง คัดค้าน 9 เสียง 35 ประเทศงดออกเสียง และ 21 ประเทศไม่เดินทางเข้าร่วมการโหวตในครั้งนี้ เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายจิมมี โมราเลส (Jimmy Morales) ประธานาธิบดีกัวเตมาลา 1 ใน 9 ชาติที่ลงเสียงคัดค้านมติดังกล่าวร่วมกับสหรัฐฯ อิสราเอล และบรรดาชาติเล็กๆ อีก 6 ชาติ เผยว่า ตนมีคำสั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศเดินหน้าย้ายสถานทูตของกัวเตมาลาจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลม ตามจุดยืนของสหรัฐฯ และอิสราเอลแล้ว โดยคาดว่าประเทศที่ลงคะแนนคัดค้านและมีสถานทูตอยู่ในอิสราเอลจะทำการในลักษณะเดียวกันในอนาคตอันใกล้
นายจิมมียืนยันว่า ที่ผ่านมาสหรัฐฯ อิสราเอล และกัวเตมาลามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด และกัวเตมาลาพร้อมที่จะยืนเคียงข้าง 2 ประเทศนี้ ในขณะที่หลายฝ่ายมองว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้นำกัวเตมาลาตัดสินใจเดินหน้ากระทำการดังกล่าว มาจากเหตุผลด้านเงินช่วยเหลือ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญให้แก่ประเทศในอเมริกากลางที่กำลังเผชิญความยากลำบากทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการตัดสินใจของผู้นำกัวเตมาลาในครั้งนี้จะยิ่งทำให้ปัญหาและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ลุกลามขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
Photo: AFP
อ้างอิง: