×

GPSC รายงานกำไร 3Q64 ต่ำกว่าคาด จากการหยุดเดินเครื่องนอกแผนและต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น

08.11.2021
  • LOADING...
GPSC

เกิดอะไรขึ้น:

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2564 บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 จำนวน 1.9 พันล้านบาท ลดลง 27%YoY และ 19%QoQ โดยหลักๆ ถูกกดดันจากผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและการหยุดเดินเครื่องนอกแผนงานของโรงไฟฟ้า GHECO-One และ Glow Energy (GE) เฟส 5

 

การหยุดเดินเครื่องนอกแผนของ GHECO-One ส่งผลให้ปริมาณการขายของธุรกิจ IPP ลดลง 15%YoY และ 29%QoQ สู่ระดับ 1,204GWh ต่ำสุดนับตั้งแต่ 1Q62 หรือก่อนควบรวมกิจการกับ GLOW ซึ่งการหยุดเดินเครื่องครั้งนี้ใช้เวลา 28 วัน และนับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากหยุดเดินเครื่องตามกำหนดไปแล้วใน 1Q64 ดังนั้นอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าแห่งนี้จึงลดลงสู่ระดับเพียง 69% เทียบกับ 76% ใน 2Q64 และระดับปกติอยู่ที่ >95% ซึ่งส่งผลทำให้อัตราค่าความพร้อมจ่ายของ GHECO-One ลดลงสู่ระดับเพียง 68% ใน 9M64 ลดลงจาก 94% ใน 9M63 ขณะที่ปริมาณการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า IPP เก่า (โรงไฟฟ้าศรีราชาและ Glow IPP) ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทั้งๆ ที่อัตราค่าความพร้อมจ่ายสูง

 

ปริมาณการขายของธุรกิจ SPP ใน 3Q64 เพิ่มขึ้น 14%YoY และ 1%QoQ เนื่องจากปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 15%YoY แต่ทรงตัว QoQ ความต้องการใช้ไอน้ำจากลูกค้าอุตสาหกรรมก็เพิ่มขึ้น 12%YoY และ 2%QoQ ราคาไอน้ำโดยเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้น 6%QoQ แต่ลดลง 2%YoY อย่างไรก็ตามกำไรของธุรกิจ SPP ได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ทั้งก๊าซธรรมชาติ (เพิ่มขึ้น 10%YoY, เพิ่มขึ้น 15%QoQ) และถ่านหิน (เพิ่มขึ้น 42%YoY, เพิ่มขึ้น 21%QoQ) แต่ได้รับการชดเชยบางส่วนโดยค่าบำรุงรักษาที่ลดลง ทั้งนี้กำไรของธุรกิจ SPP ที่ลดลง 5%YoY และ 7%QoQ มีสาเหตุมาจากการหยุดเดินเครื่องนอกแผนงานของ GE เฟส 5 ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม โดยผู้บริหารคาดว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติในเดือนกุมภาพันธ์ 2565

 

ขณะที่ส่วนแบ่งกำไร 3Q64 จากบริษัทร่วมยังดีต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เกิดจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) เนื่องจากปริมาณน้ำมากขึ้นและราคาไฟฟ้าที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้กระตุ้นให้ กฟผ. เพิ่มอัตราการสั่งจ่ายไฟฟ้าเพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่สูงขึ้นใน 3Q64 เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้าถูกตรึงไว้เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ นอกจากนี้ GPSC เริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานจากการถือหุ้น 41.6% ใน Avaada (บริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดีย) หลังจากเข้าซื้อกิจการเสร็จในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม แม้กำไรปกติอยู่ที่ 19 ล้านบาท แต่ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 31 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและการป้องกันความเสี่ยงที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

 

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2564) ราคาหุ้น GPSC ปรับตัวลง 3.18%DoD สู่ระดับ 76.00 บาท ภายหลังจากรายงานผลประกอบการ 3Q64 

 

มุมมองระยะสั้น:

กำไร 3Q64 ของ GPSC ต่ำกว่าตลาดคาดราว 11% ซึ่งเกิดจากผลกระทบของการหยุดซ่อมโรงไฟฟ้านอกแผนของ GHECO-One และ Glow Energy (GE) เฟส 5 รวมถึงราคาต้นทุนเชื้อเพลิง (ราคาก๊าซและราคาถ่านหิน) ที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าคาด

 

SCBS คาดแนวโน้มกำไร 4Q64 ของ GPSC จะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากโรงฟ้า GHECO-one จะกลับมาดำเนินงานตามปกติและจะมีการรับรู้เงินชดเชยค่าประกันภัยเพิ่มจากการหยุดเดินเครื่องนอกแผนงานของ GE เฟส 5 ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่อาจอ่อนตัวจาก 3Q64 นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจาก Avaada จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 

 

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ต้องติดตามคือยอดขายไฟฟ้าและไอน้ำของธุรกิจ SPP ให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม ต้นทุนเชื้อเพลิง และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

 

มุมมองระยะยาว: 

GPSC เป็นแกนนำหลักในธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) โดยการขยายตัวของกำลังการผลิตและแนวโน้มกำไรของ GPSC จึงขึ้นอยู่กับนโยบายของกลุ่ม PTT ในการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ

 

ทั้งนี้ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักของ GPSC คือ Energy Recovery Unit (ERU) หรือโรงไฟฟ้าสำหรับโรงกลั่นแห่งใหม่ของไทยออยล์ภายใต้โครงการ Clean Fuel กำลังการผลิต 250MW ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นอีก 5% รวมถึง GPSC จะดำเนินงานตามแผนของ PTT ในการเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้ได้ถึง 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising