วันนี้ (8 กรกฎาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเตรียมฟ้องรัฐบาลเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้มีการจัดซื้อวัคซีน Sinovac เพิ่มเติม โดยอ้างว่าการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะวัคซีนที่สั่งซื้อไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดได้นั้น
ล่าสุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเพื่อย้ำว่า วัคซีนที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยประเทศไทยมีวัคซีน 3 ชนิดที่ให้บริการไปแล้ว ได้แก่ AstraZeneca, Sinopharm และ Sinovac
อีกทั้งการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะแผนการจัดหาวัคซีน ประกอบไปด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ และมีงานวิชาการรองรับ เป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ และทำตามหลักภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศของ WHO
ส่วนความกังวลว่าวัคซีน Sinovac ที่มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กำลังแพร่ระบาดได้นั้น ปัจจุบันข้อมูลทางการแพทย์พบว่า ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ 100% แม้แต่วัคซีนชนิด mRNA แต่ทุกชนิดรวมทั้งเทคโนโลยีเชื้อตาย สามารถลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้
ดังนั้น ในระหว่างรอส่งมอบวัคซีน mRNA ในช่วงไตรมาสที่ 4 อาทิ วัคซีน Pfizer 20 ล้านโดสตามแผนวัคซีนหลัก และ Moderna ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก รัฐบาลจึงเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้างให้มากที่สุดเพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งแผนการดังกล่าวภาครัฐได้ดำเนินการและสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง มิได้เพิ่งอนุมัติจัดหาในการประชุม ครม. ที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์