×

แม่ทัพ Google เมิน Metaverse เชื่อ ‘Search Engine’ และ ‘AI’ คือกุญแจสำคัญในการเพิ่ม Market Cap สู่ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

19.11.2021
  • LOADING...
Sundar Pichai

ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างเตรียมมุ่งหน้าสู่ Metaverse จักรวาลใหม่ที่จะทำให้เติบโตไปอีกขั้น แต่สำหรับ ซันดาร์ พิชัย แล้ว กุญแจสำคัญที่จะไขประตูให้ Google ไปสู่อนาคตที่สดใส และเพิ่ม Market Cap สู่ 3 ล้านล้านดอลลาร์ คือสิ่งที่พวกเขาถนัดที่สุดอย่าง Search Engine

 

บนเวที Bloomberg New Economy Forum ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอ Google และบริษัทแม่อย่าง Alphabet ได้ตอบคำถามสำคัญว่า หลังจากที่บริษัทสามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นบริษัทที่สาม ที่มี Market Cap 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 65.6 ล้านล้านบาทได้สำเร็จเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานั้น จะสามารถเพิ่มมูลค่าของบริษัทอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ถัดไปได้อย่างไร

 

“ผมรู้สึกโชคดีที่ภารกิจของเรานั้นไม่มีวันสิ้นสุด” พิชัยกล่าว “เพราะตอนนี้มีความต้องการในการจัดการข้อมูลมากยิ่งกว่าก่อนเสียอีก”

 

สิ่งที่พิชัยทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะถามคอมพิวเตอร์ด้วยคำสั่งเสียง และ ‘ประสบการณ์ต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Experiences)’ ซึ่งนั่นคือหัวใจสำคัญของ Google ที่เขาเชื่อว่าจะสามารถ “ประยุกต์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน และวิวัฒนาการการค้นหาไปอีกขั้น มันจะกลายเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

 

นับตั้งแต่การเข้ามารับตำแหน่งใน Google เมื่อปี 2015 ซันดาร์ พิชัย ได้พยายามผลักดันให้บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการบนระบบคลาวด์รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) โดยต้องเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เพิ่มมากขึ้นด้วย 

 

ซึ่งในการสัมภาษณ์กับ Bloomberg ครั้งนี้ซีอีโอที่เกิดในประเทศอินเดีย สรุปให้เห็นกุญแจสำคัญในการเติบโตในธุรกิจของ Google ว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาวด์, บริการวิดีโอ YouTube หรือ Google Play Store ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของสิ่งเดียวกันคือระบบ AI ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google ลงทุนอย่างมาก

 

ซีอีโอ Google ยังแย้มว่า หลังจากนี้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทจะได้รับการพัฒนา และทดสอบในเอเชียมากขึ้นก่อนจะกระจายไปทั่วโลก แต่ไม่รวมในประเทศจีนหลังแผนการนำระบบ Search Engine เข้าไปในแดนมังกรที่ถูกล้มไปในปี 2018 ซึ่งพิชัยยอมรับว่า สถานการณ์ไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมนัก 

 

แต่ถึงจะยอมรับว่า Google กับบริษัทจากจีนนั้นเป็นคู่แข่งกันแบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ในเรื่องของ AI และควอนตัมคอมพิวเตอร์ แต่ในมุมมองของเขายังเชื่อว่า ทั้งสหรัฐฯ และจีนยังมีช่องว่างที่จะสามารถร่วมงานกันได้ อาทิ ในเรื่องของปัญหาโลกร้อน และระบบความปลอดภัยของ AI

 

ขณะที่ Microsoft และ Facebook ต่างเริ่มมองไปยังอนาคตข้างหน้าในโลกเสมือนจริงอย่าง Metaverse ทางด้าน Google ได้เคยพยายามที่จะบุกในเรื่องของโลกจำลอง และผลิตภัณฑ์ Augmented Reality มาก่อนหน้านี้หลายปี 

 

เริ่มจาก Google Glass ที่เป็นความพยายามครั้งแรก แต่ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง ความสำเร็จที่ได้ก็ถือว่าน้อยมาก และนั่นทำให้ยักษ์ใหญ่มองหนทางอนาคตที่แตกต่าง โดยขณะนี้ Google ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่ขึ้นตรงต่อตัวซีอีโอเองโดยเฉพาะ แม้ว่าพิชัยจะไม่เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับกลยุทธ์ของหน่วยงานนี้ออกมา

 

“ผมตื่นเต้นเสมอเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Immersive Computing)” พิชัยกล่าว “มันไม่ได้เป็นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่มันคือวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ต”

 

และในขณะที่ใครต่อใครต่างพูดถึงศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่อย่างบล็อกเชนและสกุลเงินคริปโตฯ แต่สำหรับ Google แล้ว พวกเขาสนใจแค่การให้บริการบนระบบคลาวด์ และตัวของพิชัยก็ไม่มีเงินคริปโตฯ เลยด้วย “ผมเคยคิดว่าผมจะลองดู” พิชัยกล่าว “ผมลองแล้วแต่ก็เป็นแบบมาๆ ไปๆ”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

ภาพ: Andrej Sokolow/picture alliance via Getty Images

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising