ราคาทองคำวันนี้ (4 พฤษภาคม) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,082.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อย โดยเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งมีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ Fed Fund Rate ขยับขึ้นสู่ระดับ 5-5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 และถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 ภายในระยะเวลาราว 1 ปี ของ Fed โดยการประชุมในครั้งนี้ Fed ยังส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้อาจจะสิ้นสุดลงแล้ว
“ทองคำได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนที่ลดลง และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากการประชุมของ Fed เมื่อเร็วๆ นี้ และการเปลี่ยนแปลงท่าทีที่ปรากฏผ่านถ้อยแถลงของ Fed ซึ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า Fed มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปสู่การหยุดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว” Yeap Jun Rong นักวิเคราะห์ตลาดรายหนึ่งกล่าวกับ Reuters
นอกจากทองคำแล้ว ราคาแร่โลหะอื่นๆ ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยราคาสปอตซิลเวอร์พุ่งขึ้น 0.9% ที่ 25.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลทินัมขยับขึ้น 1% เป็น 1,060.16 ดอลลาร์ ขณะที่แพลเลเดียมขยับขึ้น 1.4% เป็น 1,443.11 ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% ซึ่งทำให้ทองคำที่มีราคาเป็นดอลลาร์มีราคาที่ถูกลงสำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศ
Brian Lan กรรมการผู้จัดการของตัวแทนจำหน่ายทองคำ GoldSilver Central ในสิงคโปร์กล่าวว่า ขณะนี้มีการเทขายทำกำไรบางส่วนและมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในระยะสั้น แต่แนวโน้มทองคำยังคงเป็นขาขึ้น
ขณะที่ราคาทองคำในประเทศไทย วันนี้ (4 พฤษภาคม) ทองคำแท่งมีราคารับซื้ออยู่ที่ 32,500 บาทต่อบาททองคำ และราคาขายออกอยู่ที่ 32,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนทองรูปพรรณมีราคารับซื้ออยู่ที่ 31,911.80 บาทต่อบาททองคำ และราคาขายออกอยู่ที่ 33,100 บาทต่อบาททองคำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘ทองคำ’ กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ และอาจกลายเป็น ‘ทางรอด’ ของประเทศที่ถูกควํ่าบาตร
- ทองคำ กำลังไหลเข้าเอเชีย ท่ามกลางดอกเบี้ยโลกที่กำลังขึ้นต่อเนื่อง
- แบงก์ชาติจีน ‘ตุนทองคำเพิ่ม’ เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังกลับมาซื้อครั้งแรกรอบ 3 ปี
อ้างอิง: